วันนี้ (14 ส.ค. 67) นักท่องเที่ยวแห่ยกเลิกการจองห้องพักในโรงแรมของญี่ปุ่นซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดแผ่นดินไหว หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเกิดอภิมหาแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น หลังการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น
สหพันธ์โรงแรมจังหวัดโคจิบนเกาะชิโกกุของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวอย่างน้อย 9,400 คน ได้ยกเลิกการจองห้องพักนับตั้งแต่ที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งเตือนการเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
การยกเลิกการจองห้องพักดังกล่าวในช่วงวันที่ 9-18 ส.ค. นี้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูญเสียรายได้ราว 140 ล้านเยน หรือกว่า 33 ล้านบาท
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นออกประกาศเตือนว่า ความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติสำหรับการเกิดแผ่นดินไหวขนาดยักษ์ในแอ่งนันไค
ทั้งนี้ แอ่งนันไคเป็นร่องน้ำลึกบนพื้นมหาสมุทร ซึ่งทอดตัวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นที่บรรจบกันของแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียนและแผ่นเปลือกโลกทะเลฟิลิปปินส์
ประกาศดังกล่าวถือเป็นการแจ้งเตือนเป็นครั้งแรกของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น และมีขึ้นหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.1 แมกนิจูดทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ (8 ส.ค. 67) ที่ผ่านมา ขณะที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่น่านน้ำนอกชายฝั่งจังหวัดมิยาซากิ ซึ่งอยู่บริเวณชายขอบด้านตะวันตกของแอ่งนันไค
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า ในฉากทัศน์ที่เลวร้ายที่สุด การเกิดแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงจะเขย่าพื้นที่เป็นวงกว้างในญี่ปุ่น นับตั้งแต่ภูมิภาคคันโตะ ซึ่งมีใจกลางอยู่ที่กรุงโตเกียว ไปจนถึงภูมิภาคคิวชูทางตะวันตกเฉียงใต้ และจะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งของคันโตะไปจนถึงจังหวัดโอกินาวะ
รัฐบาลญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า มีโอกาส 70-80% ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8-9 แมกนิจูดที่แอ่งนันไคภายในเวลา 30 ปี ข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 323,000 คน