ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตั้งแต่ที่เริ่มมีข่าวเรื่องส่วยสติกเกอร์ ก็มีการกวดขันจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินผิดกฎหมายอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียที จนตำรวจไปเจอเบาะแสว่ามีเจ้าหน้าที่ "กรมทางหลวง" เรียกเก็บส่วย เงินหมุนเวียนต่อเดือนไม่ใช่น้อย ๆ เลยเปิดปฏิบัติการไปจับกุม
เป้าหมายตรวจค้นมีด้วยกัน 11 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งหมดเป็นเครือข่าย "เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับส่วยรถบรรทุก" ที่เช้าวันนี้ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. นำหมายศาลไปตรวจค้น จับกุม นายนพดล นายช่างเครื่องกลอาวุโส, นายอเนก นายช่างเครื่องกลชำนาญงาน, นายธงชัย หรือ บอย เป็นพลเรือน และนายประทิน เจ้าของบัญชีม้า ที่ร่วมขบวนการนี้ได้
ซึ่งปัจจุบัน นายนพดล ย้ายมาประจำที่ด่าน ด่านบางประอิน และ ด่านวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปตรวจค้นห้องทำงาน ก่อนพบเครื่องชั่งชำรุดพังเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา และอาวุธปืนผิดกฎหมาย
ที่มาของคดีนี้ มีผู้ประกอบการรถบรรทุก รวมตัวร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ ว่าถูก เจ้าหน้าที่กรมทางหลวง และพลเรือน เรียกเก็บส่วย รถเครน และ รถบรรทุกน้ำหนักเกิน ช่วงกลางปี 2566 จึงมีการสืบสวนขยายผล แล้วพบว่าคนกลุ่มนี้คือเจ้าหน้าที่ สำนักควบคุมน้ำหนักยานพาหนะ สังกัด กรมทางหลวง ที่ใช้อำนาจหน้าที่เรียกเก็บส่วยรายเดือน ตั้งแต่หลักพันบาทไปจนหลักแสนบาท
หากผู้ประกอบการรายใด ไม่ทำตาม ก็จะถูกกวดขันจับกุมอย่างหนักจนกระทบต่อกิจการ ทำแบบนี้นานหลายปี มีผู้ประกอบการรายเล็ก-ใหญ่ ตกเป็นเหยื่อกว่า 30 คน มียอดเงินหมุนเวียนเดือนละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท ก่อนโอนแบ่งให้กับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมขบวนการตามลำดับ
สอบสวน นายนพดล ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง แต่ก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายผลสอบปากคำอยู่ในขณะนี้
