เวลา 09.06 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม ในการพระราชทานปริญญาบัตร และประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันสมทบ ประจำปีการศึกษา 2566 ในการนี้ ได้พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 6 คน, พระราชทานเกียรติบัตรแก่ผู้ได้รับรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล 9 คน, พระราชทานเกียรติบัตรแก่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ 8 คน, พระราชทานปริญญาบัตรแก่พระสงฆ์ 8 รูป, บัณฑิตพิเศษ 5 คน และผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล รอบเช้า และรอบบ่าย รวม 3,567 คน
โอกาสนี้ มีพระราโชวาทความว่า "ข้าพเจ้าขอฝากข้อคิดแก่ทุกท่าน ดังที่ได้เคยกล่าวไว้เมื่อ 2 ปีก่อนว่า บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาในทุก ๆ สาขาวิชา เป็นผู้ที่ควรแก่การชื่นชนชมยกย่อง ว่าได้อุตสาหะพากเพียรศึกษาเล่าเรียนและฝึกฝน จนมีความรู้ในวิชาการ มีทักษะในการปฏิบัติครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักสูตร แต่นอกจากความรู้และทักษะดังกล่าวแล้วนั้น บุคคลยังจำเป็นต้องมีความคิดอ่านที่ถูกต้องตามเหตุผลความเป็นจริงด้วย ทั้งนี้ เพราะในการประกอบกิจการงาน การดำเนินชีวิต และการปฏิบัติแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ต้องอาศัยความคิดอ่านที่เที่ยงตรงเป็นกลาง จึงจะสามารถพิจารณาและวินิจฉัยตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสมเหตุสมผล คือเหมาะสมถูกต้องตามเหตุตามผล ตามที่เป็นจริง จึงขอให้บัณฑิตพยายามฝึกฝนอบรมตนเอง ให้เป็นผู้มีความคิดอ่านเที่ยงตรงถูกต้อง พร้อมทั้งหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมให้ก้าวหน้าขึ้นอยู่เสมอ เเต่ละคนจะได้นำความรู้ ทักษะความเชี่ยวชาญ และความคิดอ่านทั้งปวง ไปใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้สำเร็จผล เป็นประโยชน์แก่ตนเอง ตลอดถึงสังคมและประเทศชาติ"
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในเพลง "นักร้องบ้านนอก" เป็นการแสดงผสมผสานดนตรีไทยสไตล์ลูกทุ่ง และเพลง "ชีวิตยังคงสวยงาม" บทเพลงสมัยนิยม สร้างแรงบันดาลใจให้พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคไปสู่ชีวิตที่สวยงาม และทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานของมหาวิทยาลัย เรื่อง "ขิดตะขอสลับเอื้อ : ทอเส้นด้ายจากภูมิปัญญาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" เป็นโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและต่อยอดภูมิปัญญาของชาวบ้าน เพื่อรักษาลายผ้าท้องถิ่นของจังหวัดอำนาจเจริญ ให้ความรู้ด้านการผลิตอย่างครบวงจร สร้างรายได้ให้ผู้ร่วมโครงการเพิ่มเฉลี่ย 3,000 ถึง 10,000 บาทต่อเดือน เกิดกองทุนส่งเสริมอาชีพทอผ้าและแปรรูปผ้าขิดลายตะขอสลับเอื้อ ตําบลโนนหนามแท่ง มีร้านจําหน่ายสินค้า ชื่อร้าน "ฮักขอเอื้อ" ที่จังหวัดอำนาจเจริญ และเพจ Huk Kor Eue ผ้าขิดลายตะขอสลับเอื้อ