ฝนเริ่มตกน้อยลงแต่รัฐบาลยังต้องเฝ้าระวัง ส่วนสถานการณ์น้ำภาพรวมประเทศดีขึ้น
วันนี้ ( 21 ต.ค.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมของประเทศดีขึ้น ฝนเริ่มตกน้อยลง แต่ก็ยังต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะบางพื้นที่ยังมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เช่น อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ที่เพิ่งเกิดสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากไปเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันหลายพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เจ้าหน้าที่และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มกำลัง
ส่วนเงินเยียวยา ตามมติคณะรัฐมนตรี ครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ก็อยู่ระหว่างการเร่งทยอยโอนเงินอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับเงินเยียวยาน้ำท่วม ค่าทำความสะอาดดินโคลนหลังละ 10,000 บาท ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอ ก็ได้รับความเห็นชอบจาก ครม. และกระทรวงการคลังแล้ว และอยู่ระหว่างการเร่งจ่ายเช่นเดียวกัน หลังจากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการถอดบทเรียนและบูรณาการความร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการป้องกันล่วงหน้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้หน่วยงานหลักที่เฝ้าระวังดูแลเรื่องดังกล่าว คือ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตนเองจึงเสนอเข้าไปในที่ประชุม ครม. ในเรื่องของการแบ่งอำนาจหน้าที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังและป้องกันด้วย ซึ่งจะทำให้งานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หลายพื้นที่ยังต้องมีการเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะช่วงนี้ฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ แม้การระบายน้ำจะดีขึ้น แต่ยังควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการตั้งวอร์รูมเฝ้าระวัง และรายงานเหตุที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง
