เช้านี้ที่หมอชิต - มหกรรมลากไส้ "ทนายตั้ม" ถูกกระหน่ำจากคนใกล้ตัว คดีล่าสุดถูกแจ้งความเรื่องอมเงินสร้างโรงแรม "มาดามอ้อย" ตอนนี้ถูกแจ้งความแล้ว 4 คดี
มาดามอ้อย แจ้งความเอาผิด ทนายตั้ม 4 คดี
ปมร้อนหลอกเอาเงิน 71 ล้านบาท เริ่มชัด หลังเสร็จสิ้นการสอบปากคำ "มาดามอ้อย" ครบทุกประเด็น เหลือเพียงการสรุปและวางแนวทางการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในความผิดข้อหาฉ้อโกง ส่วนข้อหาอื่น ๆ ต้องสอบปากคำพยานอีกหลายปาก
ตอนนี้ "ทนายตั้ม" ถูก "มาดามอ้อย" แจ้งความ 4 คดี คือ ลงทุนสลาก ออนไลน์ 71 ล้านบาท, ปมถูกสแกมเมอร์ หลอก 39 ล้านบาท, ปมซื้อรถเบนซ์ 13 ล้านบาท และ หลอกออกแบบสร้างโรงแรม มูลค่า 9 ล้านบาท
โรมแรมที่ว่า คือ โรงแรมดิแองเจิล อยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถาม นายชวลิต เอมโอช ผู้อำนวยการกองช่าง เทศบาลเมืองปากช่อง
บอกว่าโรงแรมพื้นที่ 6 ไร่ ยื่นเอกสารขออนุญาตสร้างโรงแรม 5 ชั้น 43 ห้องพักถูกต้อง มี คนชื่อ "คุณมี่" ทีมงานทนายตั้ม เป็นผู้รับมอบอำนาจ ยื่นก่อสร้าง วันที่ 9 สิงหาคม 2567
เทศบาลอนุญาตเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเทศบาลต้องไปตรวจการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบหรือไม่
ต่อมาบริษัทออกแบบก่อสร้าง สร้างกลุ่มไลน์ มีคนประสานงานทนายตั้ม ก็คือ "คุณมี่" เข้ามาในกลุ่ม เพื่อสรุปข้อมูลการสร้างโรงแรมมูลค่ากว่า 80 ล้านบาท คิดว่าออกแบบเป็นเงิน 3.5 ล้านบาท ทำสัญญาโดยตรง แบ่งจ่ายเงิน 3 งวด
เดือนกุมภาพันธ์ 2567 บริษัทฯ ออกแบบโรงแรมเสร็จ "ทนายตั้ม" จ่ายเงินค่าออกแบบ 3 งวด 3.5 ล้านบาท โอนเงินจากบัญชีทนายตั้ม เข้าบัญชีบริษัทออกแบบ
จู่ ๆ "ทนายตั้ม" โทรศัพท์บอกให้หยุดโครงการไว้ เดือนสิงหาคม 2567 "คุณมี่" ไปยื่นขออนุญาตก่อสร้างอีกครั้ง แต่เปลี่ยนชื่อบริษัทผู้ออกแบบ เป็นบริษัทอื่น "ทนายตั้ม" ได้เงินส่วนต่าง มาดามอ้อย ไป 5 ล้านบาท
อัจฉริยะ แฉซ้ำเงิน 39 ล้านบาท อยู่กับใคร
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตามแฉซ้ำ "คุณมี่" ทีมทนายตั้ม ที่แท้คือ เลขาฯ คนใหม่ หลัง นายเบียร์ เลขาฯ คนเก่าได้ลาออกไป "คุณมี่" ที่เป็นคนเบิกเงิน 39 ล้านบาท ไปแบ่งกับ ทนายตั้ม
นายอัจฉริยะ มั่นใจว่า สัปดาห์นี้ พนักงานสอบสวน สามารถออกหมายจับทนายตั้ม กับพวกได้แน่นอน และจะเตรียมแฉ อีกรอบพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) กรณีมีคนร้องเรียนการปลอมแปลงสูติบัตร และบัตรประชาชน เพื่อยืดเวลาการเกษียณอายุให้แก่ผู้บริหารบริษัทเอกชน เป็นข่าวดังปลายปี 2566 แต่สุดท้ายก็เรื่องเงียบ เพราะมีข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย เป็นตัวกลางเจรจา
ปานเทพ เชื่อ ทนายตั้ม รู้ตัวจะถูกออกหมายจับ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ วิเคราะห์ว่า ปรากฎตัวของทนายตั้ม ที่กองปราบปราม เพื่อแสดงตนในที่สาธารณะ ว่าตนเองไม่ได้หนี เพื่อเลี่ยงถูกออกหมายจับ
ซึ่งการปรากฎตัวของ ทนายตั้ม ทำให้ มาดามอ้อย ได้ข้อมูลที่กระจ่าง จึงแจ้งข้อหา 4 คดี การตอบคำถามของทนายตั้ม จะเห็นได้ชัดว่า เจ้าตัวไม่พอใจอย่างแรง เมื่อนักข่าว ถามเรื่องรถเบนซ์ และยังตะกุกตะกักเรื่องจ่ายภาษีของเงิน 71 ล้านบาท
ปานเทพ โต้เงิน 39 ล้านบาท มาดามอ้อย ถูกหลอก
ส่วนเรื่องเงิน 39 ล้านบาท ทนายตั้ม ตอบแบบตัดตอน พูดความจริงไม่หมด ที่อ้างว่า สแกมเมอร์ชาวจีน สวมรอยเป็น ดาราจากจีนดูดเงิน แท้จริงแล้ว ทนายตั้ม พานุ และภรรยา มาช่วยดำเนินการโอนคริปโต 2 ครั้ง และอ้างว่า บัญชีถูกอายัด ในบัญชีมีทรัพย์สิน 39 ล้าน ทำทีมาทะเลาะกันต่อหน้ามาดามอ้อย เสมือนเป็นความผิดของมาดามอ้อย ทำให้ มาดามอ้อย จ่ายเป็นแคชเชียร์เช็ค 39 ล้านบาท ให้กับ ส.เสือ ที่จ่ายไม่ใช่เพราะตัดความลำคาญ แต่เป็นเพราะถูกหลอก
เพจดาวแปดแฉก โพสต์ใบลงบันทึกประจำวัน (23 พ.ค.66) พร้อมตั้งคำถามว่า อ้างว่าถูกสแกมเมอร์หลอกดูดเงิน 39 ล้านบาท อ้างว่าเตือนแล้วแต่มาดามอ้อยไม่ฟัง แต่ทำไมในบันทึกฯ ระบุ ว่าโอน 7 ครั้ง และยอดเงิน แค่ 2.2 ล้านบาท ไม่ใช่ 39 ล้านบาท จนวันที่ 25 พ.ค.2566 มาดามอ้อย จึงซื้อแคชเชียร์เช็ค 39 ล้านบาท จ่ายให้ไป จึงตั้งคำถามว่า ปมเงิน 39 ล้าน ใครไม่พูดความจริง?
จากหลักฐานดังกล่าว ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ผู้ที่แสดงความเห็นเข้าข้าง ทนายตั้ม มาโดยตลอด กลับลำแทบไม่ทันเจ้าตัวโพสต์ว่า นี่อาจเป็นจุดจบของทนายความดัง
พร้อมแสดงความเห็นว่า สแกมเมอร์คือใคร คือผู้ต้องหาในคดีนี้หรือไม่ มีการนำแคชเชียร์เช็คไปเบิกเงิน ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำ แคชเชียร์เช็คไปเข้าบัญชีใคร ใครได้เงินจากการหลอกลวง อาจเป็นจุดจบทนายดัง พยานหลักฐานสำคัญกว่าน้ำลาย บิ๊กโจ๊ก กล่าวไว้ว่า "กรรมใครกรรมมัน"
