ทัพเรือภาค 2 ส่งเรือหลวง-เครื่องบิน ไล่จับเรือประมงเวียดนามกลางอ่าวไทย ลักลอบคราดปลิงทะเล จับผู้ต้องหา 5 คน เรือ 1 ลำ
4 มกราคม 2568 พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ไปตรวจสอบ เรือประมงสัญชาติเวียดนาม ที่ถูกนำเข้ามาเทียบท่า ที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือ จังหวัดสงขลา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยเรือลำดังกล่าว ได้ลักลอบคราดปลิงทะเล บริเวณใกล้กับเกาะกระ ห่างจากอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ประมาณ 77 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในอาณาเขตอ่าวไทย พลเรือโท นเรศ จึงสั่งการให้เรือหลวงแหลมสิงห์ และอากาศยาน ลาดตระเวนค้นหาพิสูจน์ทราบก่อนเข้าจับกุมได้ ช่วงเช้าตรู่ วันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อตรวจผลบนเรือ พบเป็นเรือคราดปลิงทะเล มีผู้ควบคุมเรือ และลูกเรือรวม 5 คน ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม ก่อนควบคุมตัว ทั้ง 5 คน และนำเรือ เข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา เพื่อสอบสวน และนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ข้อหา ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย และร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง , ข้อหา ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต , และข้อหา เป็นคนต่างด้าวไม่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง
ทั้งนี้เมื่อปีงบประมาณ 2567 ถ้าเผื่อภาคที่ 2 จับกุมเรือประมงต่างชาติ โดยเฉพาะ สัมภาษณ์เวียดนาม ได้ 8 ครั้ง จำนวนเรือ 13 ลำ พร้อมผู้ควบคุมเรือและลูกเรือรวม 65 คน ส่วน เรือที่จับได้ล่าสุดเป็นลำแรกในปีงบประมาณ 2568 โดยทั้งหมด เป็นเรือที่ใช้คราด เป็นเครื่องมือทำการประมงคราดปลิงทะเล ซึ่งถือเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติบนพื้นผิวดินใต้ทะเล เช่น แนวปะการัง ซึ่งเรือแต่ละลำมีศักยภาพจับปลิงทะเล 15-20 ตันต่อครั้ง มูลค่าตลาดราคา 300-500 บาทต่อกิโลกรัม กองทัพเรือ และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล. สามารถรักษาผลประโยชน์ได้มากกว่า 150 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ปลิงทะเลก็ยังเป็นที่นิยมของชาวเวียดนาม และชาวจีน เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก