เครียดจนโคม่า ป้าป่วยอัลซไฮเมอร์ถูกสแกนใบหน้าโอนเงินล้าน

เครียดจนโคม่า ป้าป่วยอัลซไฮเมอร์ถูกสแกนใบหน้าโอนเงินล้าน

View icon 429
วันที่ 7 ม.ค. 2568 | 12.32 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ร้องสายไหมต้องรอด อดีตพนักงาน ขสมก. ป่วยอัลซไฮเมอร์ ถูกสแกนใบหน้าโอนเงิน 1 ล้าน ครอบครัวมารู้ภายหลังโทร. ทวงเป็น 100 สาย นายหน้าประกันแสบบอกเอาไปปล่อยกู้ โอนคืนมา 3 แสน ล่าสุดป้าเครียดจนอาการโคม่า

วันนี้ (7 ม.ค.68) นายฉลาด อายุ 63 ปี และ นางสาวเอ้ ผู้เสียหาย เข้าร้องทุกข์กับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูก นางสาวแววตา นายหน้าขายประกันบริษัทชื่อดัง หลอกโอนเงินจากบัญชี นางมารศรี อายุ 62 ปี อดีตพนักงาน ขสมก. ที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ จับสแกนใบหน้าโอนเงินเข้า บัญชีตัวเองกว่า 1 ล้านบาท ก่อนสามีมาทราบภายหลัง ขู่แจ้งความจึงยอมโอนคืนมาให้ 300,000 บาท ก่อนหนีหาย ทำให้ทางครอบครัวพยายามติดต่ออีกครั้งแต่พบว่าไม่สามารถติดต่อ น.ส.แวว ได้อีกแล้ว

นางสาวเอ้ เล่าว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 นางสาวแววตา นายหน้าประกัน ที่เคยทำประกันให้ครอบครัวมากว่า 10 ปี เมื่อรู้ว่าเกษียณก็กลับมาหาอีกครั้ง และได้ติดต่อมายัง นางมารศรี ก่อนสอบถามว่าสามี (นายฉลาด) อยู่บ้านหรือไม่ เมื่อรู้ว่าไม่อยู่จึงเข้ามาพูดคุย แต่เมื่อพูดคุยกันเสร็จ นางสาวแววตา ได้นำโทรศัพท์ของ นางมารศรีมาสแกนใบหน้า ก่อนจะโอนเงินออกไปยังบัญชีตนเอง จำนวน 1 ล้านบาท โดยไม่มีใครทราบ

กระทั่งวันที่ 24 พ.ย.67 ทางครอบครัว และนางมารศรี จะนำเงินไปจ่ายบัตรเงินกู้ของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง จนรู้ว่าเงินถูกโอนออกไปยังบัญชีของ น.ส.แววตา ทำให้ นางมารศรีเริ่มติดต่ไปยัง น.ส.แววตา เพื่อขอเงินคืนมากกว่า 100 สาย แต่ น.ส.แววตาก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดโดยอ้างว่าเข้าโรงพยาบาลและโทรศัพท์ตกน้ำ ทำให้นางมารศรีเริ่มมีภาวะเครียด จนวันที่ 2 ธ.ค.67 เกิดอาการช็อก และไตวายเฉียบพลัน และยังรักษาตัวจนถึงปัจจุบันในห้องฉุกเฉิน โดยร่างกายไม่ตอบสนอง

หลังจากนั้นนายฉลาด ได้พยายามติดต่อหา น.ส.แววตา เพื่อสอบถามถึงยอดเงินที่มีการโอนออกไปว่านำออกไปทำอะไร จนทราบว่ามีการนำเงิน 1 ล้านบาทไปปล่อยกู้ จึงพยายามขอเงินคืน แต่ น.ส.แววตา ได้โอนคืนมาให้แค่ 3 แสนบาท ก่อนจะปิดการติดต่อทุกช่องทางจนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้

วานนี้ (6 ม.ค. 68) นายฉลาดและครอบครัว ได้เดินทางเข้าไปติดต่อบริษัทประกันภัยแห่งนี้ ที่สาขาบางนา โดยพนักงานบอกว่าจะรวบรวมหลักฐานส่งสำนักงานใหญ่ และยังพบว่า นางสาวแววตา ยังเป็นตัวแทนของบริษัทประกันอยู่ และต้องรออีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อนำข้อมูลมาเปิดเผยกับผู้เสียหาย

นายเอกภพ บอกว่า สำหรับกรณีนี้ได้ประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.เมืองสมุทรปราการ เนื่องจากได้แจ้งความตั้งแต่เดือน พ.ย.67 จึงอยากให้พนักงานสอบสวนออดหมายเรียกนางสาวแววตา มาเพื่อดำเนินการตามกฏหมาย และคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง