ม็อบชาวนา พร้อมยกระดับการชุมนุม ขอรัฐช่วยอุ้มราคาข้าวเปลือกนาปรัง ตันละ 1.1 หมื่นบาท เยียวยาพื้นที่รับน้ำ 4 เดือน ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซัง
วันนี้ (4 ก.พ.68) ชาวนาในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 12 จังหวัด ประมาณ 1,000 คน นัดรวมตัวกันที่หน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรียกร้องขอความช่วยเหลืออุดหนุนราคาข้าวเปลือกนาปรังปี 2568 โดยมีนายบุญสิงห์ วรินทรักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นตัวแทนรับหนังสือจากชาวนา
ทั้งนี้ ชาวนาเรียกร้องให้ขายข้าวเปลือกความชื้น 15% ในราคา 11,000 บาทต่อตัน เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา รวมถึงเยียวยาผลกระทบจากปัญหาที่เป็นพื้นที่รับน้ำไร่ละ 300 บาท จำนวน 4 เดือน รวมถึงยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ชาวนาได้ส่งหนังสือเรียกร้องมาหลายครั้ง แต่ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือไม่ตรงจุด
แกนนำชาวนา จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กลุ่มชาวนาพยายามยื่นข้อเรียกร้องมานานกว่า 1 เดือน ที่ผ่านมา ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท จำกัดไม่เกิน 10 ไร่ แต่ยังไม่เพียงพอ เพราะปัจจุบันราคาข้าวตกต่ำมาก ราคาขายต่ำกว่าต้นทุนการปลูก รวมถึงยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าว เพราะการเผาเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการกับฟางข้าว หลังการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้หากยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจน อาจยกระดับความเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ยอมรับว่า การที่ราคาข้าวไทยตกต่ำ เป็นผลมาจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว 5% และประเทศผู้นำเข้าอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ชะลอการนำเข้าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ สวนทางกับชาวนาที่หันมาปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น ผลผลิตจึงออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก สมาคมผู้ส่งออกฯ เร่งหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อช่วยระบายข้าวส่วนเกิน จึงอยากให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือชาวนา ด้วยการการลดต้นทุนการผลิต