ไข่เน่าส่งกลิ่นคลุ้ง ข้อพิพาทระหว่างเจ้าอาวาสวัดดังเมืองกรุงเก่ากับชาวบ้าน เจ้าคณะอำเภออยากให้วัดกับชาวบ้านอยู่ร่วมกันได้ รุดเคลียร์ปัญหา ไม่วายถูกโวยใส่กล่าวหารับสินบนจากฝั่งชาวบ้าน จนต้องตั้งกรรมการสอบพฤติกรรมเจ้าอาวาส ขีดเส้นรู้ผลใน 30 วัน
ความคืบหน้ากรณีเจ้าอาวาสวัดดังเมืองกรุงเก่า ทะเลาะกับชาวบ้าน นำเปลือกไข่เน่าไปทิ้งข้างร้านค้าเนื่องจากเข้าใจว่าชาวบ้านปลูกสร้างโรงรถล้ำเข้ามาภายในที่ดินของวัด ล่าสุดวันนี้ (18 เม.ย.68) พระวชิโรภาส เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยภายหลังตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับ น.ส.สุกัญญา เบาเนิด ผอ.ศิลปกรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา น.ส.สุกัญญา เอี่ยมสิทธิพรกุล ผอ.กองสวัสดิการ และรักษาการผอ.กองสาธารณสุข เจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ เพื่อแก้ปัญหาร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุกระทบกระทั่งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ที่อยู่ในพื้นที่ปกครองของเจ้าคณะอำเภอ
พระวชิโรภาส เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังจากมีประชาชนได้ร้องเรียนมา ว่าเจ้าอาวาสวัดในปกครอง นำไข่เน่ากว่า 1,000 ฟอง มาทิ้งบริเวณริมบ้านหลังหนึ่ง ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง อาตมาจึงลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว และหาทางเจรจากับเจ้าอาวาส แต่เจ้าอาวาสไม่ฟังเหตุผล มาโต้เถียงและด่าทอ กล่าวหาว่าเจ้าคณะอำเภอรับสินบนของชาวบ้านมากลั่นแกล้ง
เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่าการลงมาในครั้งนี้เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะชาวบ้านเดือดร้อน อยากให้ชาวบ้านและวัดได้อยู่ร่วมกันได้ วัดจะอยู่ได้ก็ต้องมีศรัทธาจากชาวบ้าน จากการตรวจสอบที่ดิน พบว่าเป็นที่ราชพัสดุ กรมศิลป์ซึ่งเป็นผู้ปกครอง เจ้าของร้านค้า ก็มีการเสียค่าเช่ารายปี แต่เมื่อเจ้าอาวาสวัด เข้าใจว่าเป็นที่ดินของวัด ก็ตั้งใจจะนำเปลือกไข่เน่ามาทิ้ง ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งลักษณะคล้ายกลั่นแกล้งกัน
หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าอาวาส ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 วันถึงจะรู้ผล กรณีการฝังไข่เน่าแม้เข้าใจว่าเป็นที่วัด เจ้าอาวาสไม่มีอภิสิทธิ์นำขยะที่เป็นมลพิษมาฝังได้ อย่าทำให้ศาสนาไม่เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน
ด้านนายสำเร็จ มีโพธิ์สม อายุ 51 ปี เจ้าของร้านค้าส่ง ที่มีปัญหาพิพาทกับเจ้าอาวาส เผยว่า ได้สร้างโรงรถยื่นออกมาจากตัวบ้านความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งสร้างมาได้ 1 ปี เจ้าอาวาสวัดได้เข้ามาต่อว่า ด่าทอให้ตนรื้อโรงรถออก ซึ่งมีปัญหาบานปลายมานาน จากนั้นก็มีการข่มขู่ว่าถ้าเกิดไม่รื้อออกก็จะนำไข่เน่ามาทิ้งบริเวณข้างร้านค้า ซึ่งตนก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าอาวาสจะทำจริง จนกระทั่งมีคนนำเปลือกไข่เน่ามาทิ้ง โดยมีการขุดหลุมรอไว้แล้ว ตนก็ไม่อยากมีปัญหาอีก จึงยอมรื้อโรงรถออก ตนเป็นคนพุทธ พอมีปัญหาแบบนี้ก็รู้สึกจิตใจย่ำแย่ อาศัยอยู่แถวนี้ก็ไม่ได้มีโอกาสเข้าไปทำบุญที่วัด เพราะเกรงกลัวเจ้าอาวาส