วันนี้ (30 เม.ย. 68) เวลา 11.00 น. ที่ผ่านมา ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เข้าร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรม หลังตั้งครรภ์ 7 เดือน มีอาการปวดท้องเหมือนจะคลอด จึงไปโรงพยาบาลประจำอำเภอที่ได้ฝากครรภ์ ก่อนหมอจะฉีดยาและให้กินยายับยั้งการคลอด แล้ววันรุ่งขึ้นทางโรงพยาบาลได้ส่งต่อไปโรงพยาบาลอีกแห่ง ก็ได้ฉีดยาและกินยายับยั้งการคลอดอีก กระทั่งวันที่ 23 เม.ย. 68 ก็ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ใน จ.นครสวรรค์ ซึ่งหมออัลตราซาวด์ดู ก่อนแจ้งว่าลูกเสียชีวิตในครรภ์แล้ว และได้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ 4 เพื่อเหน็บยาให้ลูกที่เสียชีวิตคลอดออกมาแบบไร้วิญญาณ
นางน้อย บอกว่า ตนตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เป็นเพศหญิง อายุครรภ์ 7 เดือน ที่ผ่านมาตนได้ฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง ลูกในครรภ์ก็ปกติ โดยมีกำหนดคลอดในเดือน มิ.ย. 68 จู่ ๆ เช้าวันที่ 17 เม.ย. 68 ตนตื่นมารู้สึกมีอาการท้องปั้นแข็งเหมือนจะคลอด จึงได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลดังกล่าว ทางพยาบาลแจ้งว่าเด็กจะคลอดก่อนกำหนด แต่อายุครรภ์ยังไม่ครบ จึงจะต้องฉีดยาและกินยาเพื่อยับยั้งการคลอดไปก่อน โดยฉีดยาเข้าที่สะโพกขวา 2 เข็ม ในเวลาห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 4 เม็ด ในเวลาห่างกันทุกครึ่งชั่วโมง
หลังจากได้รับยาฉีดยากินไปตนรู้สึกมีอาการใจสั่น และมีเหงื่อออกมือ ออกเท้า จึงนอนดูอาการ 1 คืน จากนั้นเช้าวันที่ 18 เม.ย. 68 อาการท้องปั้นแข็งยังไม่หาย หมอจึงได้ส่งต่อไปที่โรงพยาบาลที่ 2 ก็ได้รับการฉีดยายับยั้งการคลอดอีก 2 เข็มเข้าที่สะโพกขวา ในเวลาที่ห่างกันครึ่งชั่วโมง และให้กินยาอีก 3 เม็ด ห่างกัน 8 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากได้รับยาไปตนรู้สึกมีอาการใจสั่น จึงให้นอนดูอาการอีก 2 คืน และเช้าวันที่ 20 เม.ย. 68 หมอจึงให้กลับบ้านได้ พร้อมกับทำใบส่งตัวให้ตนไปพบหมอที่โรงพยาบาลใน จ.นครสวรรค์ ในวันที่ 23 เม.ย. 68 โดยให้เหตุผลว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์การแพทย์ครบครันกว่า ซึ่งระหว่างที่กลับไปอยู่บ้านตนก็รู้สึกว่าลูกในท้องดิ้นน้อยลง
ต่อมาเช้าวันที่ 23 เม.ย. 68 ตนไปพบหมอที่โรงพยาบาลใน จ.นครสวรรค์ ตามนัด หมอได้ทำการอัลตราซาวด์ดูเด็กในครรภ์ แล้วบอกว่า “ลูกเสียชีวิตแล้ว แม่รู้ไหม" ตนถึงกับช็อก ใจคนเป็นแม่แทบสลาย สงสัยว่าเป็นไปได้อย่างไร จากนั้นตนก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใน อ.ขาณุวรลักบุรี จ.กำแพงเพชร เพื่อคลอดลูกที่เสียชีวิตแล้ว โดยวันที่ 25 เม.ย. 68 หมอให้เหน็บยาเร่งคลอด 2 ครั้ง และลูกก็คลอดออกมาในค่ำของวันที่ 26 เม.ย. 68 ระหว่างที่ตนนอนพักอยู่ในโรงพยาบาล ด้วยความเศร้าและทุกข์ใจมาก จึงติดต่อมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิตลูกของตนด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม
หลังรับเรื่องเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 68 ทาง นางปวีณา ได้โทรศัพท์ประสาน นพ.ปริญญา นากปุณบุตร สสจ.กำแพงเพชร ทันที เพื่อขอให้เข้าตรวจสอบช่วยเหลือ ขณะที่นางน้อยยังนอนรอคลอดลูกที่เสียชีวิตอยู่ในท้อง 3 วัน ในโรงพยาบาลแห่งที่ 4 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของ สสจ.กำแพงเพชร ติดต่อเข้าไปเยี่ยมนางน้อย กระทั่งวันที่ 28 เม.ย. 68 นางน้อยได้ออกจาก โรงพยาบาล นางปวีณา จึงได้ประสาน พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.ขาณุวรลักษบุรี และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ อินทะศรรอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ขาณุวรลักษบุรี ให้นางน้อยไปพบ
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุเคราะห์รถตำรวจนำศพลูกที่เสียชีวิตในครรภ์มาชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และมูลนิธิปวีณาฯ ได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันรถ และจะประสานเสนอเรื่องให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข โดยยื่นเรื่องผ่าน ดร.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข เพื่อให้ความช่วยเหลือตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับกับครอบครัวนางน้อย พร้อมประสาน นางสาวมะลิวัน สิทธิโยธี พมจ.กำแพงเพชร เข้าเยี่ยมครอบครัว โดยทางมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดให้นางน้อย และครอบครัวได้รับความกระจ่างและความเป็นธรรม ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับ สสจ.กำแพงเพชร และ พมจ.กำแพงเพชร ต่อไป