โรม ประชุมลับหน่วยงานความมั่นคง ถกปมชายแดนไทย-กัมพูชา

โรม ประชุมลับหน่วยงานความมั่นคง ถกปมชายแดนไทย-กัมพูชา

View icon 99
วันที่ 12 มิ.ย. 2568 | 11.14 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“โรม” ประชุมลับหน่วยงานความมั่นคง ถกปมชายแดนไทย-กัมพูชา คาดหวังนายกฯ มีบทบาทนำ เห็นแก่ประเทศมากกว่าสัมพันธ์ส่วนตัว แนะใช้กลไกทวิภาคี เพิ่มแต้มต่อให้ไทย การทำสงครามจะต้องไม่เป็นทางเลือกหลัก

วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษากรณีความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ และเส้นเขตแดน โดยระบุว่า วันนี้เป็นการประชุมลับ จะไม่มีการบันทึกการประชุม ถ่ายทอดสด หรือให้เลขานุการและที่ปรึกษาเข้าร่วม เพราะอยากให้ทุกฝ่ายพูดคุยกับคณะกรรมาธิการฯ อย่างเต็มที่ตรงไปตรงมา หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ที่เราจะร่วมมือกันระหว่างผู้ปฏิบัติ รัฐบาล และสภาฯ ยืนยันว่าในวิกฤตนี้เรามีความจำเป็นจะต้องรวมพลังแก้ปัญหา เพราะหากบานปลายประชาชนตามแนวชายแดนจะเดือดร้อนก่อน

การทำสงครามจะต้องไม่เป็นทางเลือกหลัก เนื่องจากมีการแสวงหาวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในแนวชายแดนอื่น ๆ ทางออกที่จะมีการพูดคุยกันแบบทวิภาคีระหว่างกัมพูชากับไทย จึงถือเป็นทางออกที่เป็นไปได้ เป็นทางออกที่สร้างบาดแผลกับทั้ง 2 ชาติน้อยที่สุด การมองไปข้างหน้าให้สองประเทศเห็นความสะดวกในการร่วมมือทางการค้าและมิติเศรษฐกิจ ก็มีเป็นความเป็นไปได้ แต่หากเราเลือกวิธีการอื่น การสร้างความสัมพันธ์ในเชิงบวกจะยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสุดท้ายจะต้องมีผู้แพ้ผู้ชนะ และประชาชนตามแนวชายแดนทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้อะไรเลย

สำหรับประเด็นที่จะมีการถามในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ จะเกี่ยวเนื่องกับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าต้องเข้าใจก่อนว่ากัมพูชาต้องการอะไร เป็นคำถามสำคัญที่ยังไม่ได้คำตอบ  กัมพูชาต้องการ 3 ปราสาท หรือช่องบก หรือไม่ การส่งพื้นที่ที่มีข้อพิพาทไปศาลโลก เป็นสิ่งที่กัมพูชาต้องการจริงใช่หรือไม่

นอกจากนี้ ยังต้องเตรียมการด้านความมั่นคง ต้องพูดคุยยุทธศาสตร์ร่วมกัน ทั้งของกระทรวงต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และนายกฯ ทำอะไรไปบ้าง รวมถึงแนวทางที่จะมีการเจรจา JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพราะดูเหมือนว่ากัมพูชาไม่อยากประชุม เกิดจากการที่แต้มต่อเราน้อยไปหรือไม่ หากอยากให้เครื่องมือในการเจรจาได้ผล จะต้องสร้างแต้มต่อการเจรจาของไทยให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย หากไม่มีแต้มต่อ ความขัดแย้งพัฒนาขึ้น ทุกฝ่ายมองไม่เห็นถึงประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ แล้วใช้วิธีการทางทหาร สุดท้ายประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่เคลื่อนไหวได้ยากจะได้รับกระทบค่อนข้างมาก

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า หลังปัญหาเขาพระวิหาร กัมพูชามีการเตรียมการเรื่องความมั่นคงมาโดยตลอด โดยได้รับการสนับสนุนอาวุธจากจีน แต่สิ่งที่ไทยได้เปรียบมาโดยตลอดคือ เศรษฐกิจตามแนวชายแดน ขณะที่กัมพูชามีเศรษฐกิจเทา เช่น กาสิโน คอลเซนเตอร์ ซึ่งเกินกึ่งหนึ่งของ GDP กัมพูชา ต้องดูว่ากัมพูชาใช้ประโยชน์จากไทยอย่างไรบ้าง

มาตรการตัดไฟและสัญญาณอินเทอร์เน็ต ส่งผลกระทบต่อธุรกิจชายแดน ดังนั้นไทยควรเจรจากับจีนด้วย  “ยิงปืนได้นกสองตัว” ตัวที่หนึ่งคือ การแก้ปัญหาภายในประเทศ ตัวที่สองคือ การทำลายโครงสร้างของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ตัวที่สามคือ การสร้างแรงกดดันและการเพิ่มแต้มต่อการเจรจาของประเทศไทย

ไทยต้องใช้กลไกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้เป็นประโยชน์ รัฐบาลต้องโฟกัสเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาก่อน ส่วนเรื่องภายในรัฐบาลไม่จำเป็นเร่งด่วน วันนี้ต้องสร้างความเข้มแข็งและความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาของประเทศชาติก่อน

ส่วนกรณีที่กัมพูชาเดินสายให้ทำเข้าใจกับนานาประเทศ เช่น ฝรั่งเศส นั้น ในสายตาของคนทั่วโลกมองว่ากัมพูชาเป็นประเทศเล็ก อาจจะมองว่าไทยรังแกเขา หรือการที่กัมพูชาพยามเอากรณีทหารกัมพูชาเสียชีวิตตามแนวชายแดนพูดในเวทีระดับโลก ดังนั้นไทยจะต้องทำให้เห็นว่าความเป็นจริงคืออะไร  ไทยไม่ใช่ผู้เริ่มต้น และต้องมองหาโอกาสทางการทูตใหม่ ๆ เช่น การพูดคุยกับจีน

นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า กัมพูชาได้รับสนับสนุนอาวุธจากจีน ไทยจึงต้องคุยกับจีนอย่างตรงไปตรงมา แต่จีนไม่ใช่ทุกอย่างในสมการเรื่องนี้ ย้ำว่าเราต้องสร้างความเป็นไปได้ในทางการทูตใหม่ ๆ เช่น ต้องคุยกับเวียดนาม ฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่ลงทุนในกัมพูชาเยอะ ไทยต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสอย่ามองว่าถ้ากัมพูชาได้อาวุธแล้วประเทศไทยจะโดดเดี่ยวหรือไม่ ต่อให้เราโดดเดี่ยวก็ต้องทำงานเชิงรุกอยู่ดี

“เราคาดหวังกับนายกฯ อยากเห็นนายกฯ มีบทบาทนำ   ก่อนหน้านี้มีคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลพนมเปญ นายกฯ ต้องประกาศให้ชัดว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวจะไม่มีวันใหญ่กว่าความสำคัญของประเทศชาติ หาดทำดี ๆ ก็อาจจะได้รับความนิยมที่ดี อีกทั้งต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ การลงพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จังหวัดสุรินทร์เป็นเรื่องดี แต่หัวข้อของการพูดคุยเรื่องเปิด-ปิดด่านให้ตรงกัน ยังไม่ใช่เวลานี้ เพราะมีประเด็นสำคัญอีกมากที่นายกฯ ควรให้ความสำคัญ รวมถึงสั่งการไปยังหน่วยความมั่นคง”

นายรังสิมันต์ โรม ย้ำด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องมีการลดความตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย  และกลับเข้าสู่การพูดคุยแบบทวีวิภาคี  หากกัมพูชายืนยันว่าจะต้องไปศาลโลกคงคุยกันลำบากในหลายเรื่อง ดังนั้นการลำดับความสำคัญของรัฐบาลจึงมีความสำคัญกับการไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน ประเด็นเรื่องแนวชายแดนมีความซับซ้อน   เมื่อตั้งดรีมทีมมาแล้ว ตนเองก็อยากเห็นดรีมทีมนี้ทำงานอย่างเต็มที่และมียุทธศาสตร์ที่แท้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง