วันนี้ (30 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ แจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เนื่องจากห่วงใยพัฒนาการของ ด.ช.ก้อง (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 ซึ่งแม่มีพฤติกรรมเสพยาเสพติด ไม่ทำงาน ขอข้าววัดกิน ไม่ให้ลูกไปโรงเรียนนานถึง 2 ปี ตั้งแต่อนุบาล 3 พอเด็กขึ้น ป.1 แม่พามามอบตัวรับเงินสนับสนุนเรียนฟรีจากรัฐไปประมาณ 400 กว่าบาท จากนั้นก็ไม่ให้ลูกมาโรงเรียนอีกเลย
จากนั้นครูและผู้อำนวยการโรงเรียนไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ก็พบว่าอยู่ในพื้นที่สีแดงที่มียาเสพติดระบาด และทราบว่าแม่พาลูกตระเวนขอเงินชาวบ้านเป็นประจำ จนเพื่อนบ้านเอือมระอา ไม่ให้ลูกหลานมาเล่นกับ ด.ช.ก้อง บ้านที่อยู่เป็นบ้านของญาติ ในบ้านอาศัยกันอยู่ 3 คน มีแม่อายุ 46 ปี พี่ชายอายุ 23 ปี และ ด.ช.ก้อง พร้อมกับสุนัขในบ้านอีก 6 ตัว เมื่อเด็กไม่มีเพื่อนเล่น วัน ๆ ก็จะเล่นกับสุนัขและส่งเสียงเห่าคล้ายสุนัข จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ ด.ช.ก้อง ให้ได้รับการศึกษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.เจริญ แดงเรือง ผกก.สภ.ลับแล พร้อมด้วย ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ., น.ส.กริสนา พลชา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ และ นางจิตรตรี ปงศรีชัย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บ้านของ ด.ช.ก้อง ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือทันที
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลับแล ได้นำตัวแม่และพี่ชายของ ด.ช.ก้อง ไปตรวจปัสสาวะ พบสารเสพติดในร่างกาย จึงได้ส่งดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติด และทาง พมจ.อุตรดิตถ์ ได้รับ ด.ช.ก้อง เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพักเด็กฯ อุตรดิตถ์ โดย นางปวีณา จะได้ประสาน ดร.ธีร์ พร้อม ดร.ตฤณ เพื่อให้ ด.ช.ก้อง ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกระทรวงศึกษาธิการ ต่อไป