ดิว อริสรา เปิดใจทั้งน้ำตา ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทำให้กล้ากลับมาประเทศไทย

ดิว อริสรา เปิดใจทั้งน้ำตา ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทำให้กล้ากลับมาประเทศไทย ยอมรับ เคยคิดน้อยไม่อยากอยู่ แต่เห็นลูก ก็ทำให้มีกำลังใจฮึดสู้ ด้านทนาย ระบุ เร็วๆนี้ด้านคดีทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

20 สิงหาคม 2568 นางสาวอริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือ ดิว นักแสดงสาว เปิดใจครั้งแรก หลังเดินทางกลับมายังประเทศไทย โดยวันนี้มีการแถลงข่าว งานเปิดตัวพรีเซนเตอร์อาหารเสริมลดน้ำหนัก โดย ดิว ได้เปิดใจทั้งน้ำตาตั้งแต่เริ่มแถลงข่าว บอกว่า การกลับมาครั้งนี้ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันมีขึ้นๆลงๆ ดิวไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่ เพราะเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่ชีวิตดิวเริ่มจากติดลบ และการที่ทุกคนให้กำลังใจทำให้กลับมามีแรงผลีกดันตัวเองให้มั่นใจขึ้น

ดิว สารภาพตามตรง ในช่วงแรกที่เกิดเรื่อง ตนเองรู้สึกกลัวมาก กลัวคน ตอนอยู่ไต้หวันก็กลัวคนไทย ตอนกลับมาก่อนเครื่องจะลงก็กลัว แต่พอมาแล้วได้เจอผู้คนที่ให้กำลังใจ ที่ช่วยเหลือ ดิวไปเดินในที่สาธารณะเจอคนเข้ามากอด ส่งกำลังใจ ก็ทำให้ความคิดภายในหัวที่กลัว เริ่มลดลง คนไทยเป็นคนใจดี เป็นคนให้โอกาสคน และที่สำคัญดิวกลับมาเจอคนคุ้นเคยที่ดีต่อกันก็ทำให้อุ้นใจมากขึ้น และอยากอยู่ประเทศไทย

ที่ผ่านมา ดิวเสียใจกับตัวเอง ที่ดิวทำพลาดทุกอย่าง ดิวไม่โทษใคร ดิวโทษตัวเองและบอกกับตัวเองว่า “เมื่อไหร่จะมีบทเรียนที่จบสิ้น สักที ดิวไม่อยากพลาดอีกแล้ว ดิวควรพอ ควรเข็ดได้แล้ว” ตอนนี้ดิวรู้แล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีสติ อยู่บนความเป็นจริงและต้องแก้ไขตัวเอง

เมื่อถามเรื่องคดีความ นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง บอกว่า ดิวมีความตั้งใจจะเคลียร์ตั้งแต่ต้น และเมื่อวานนี้ก็ได้มีการเคลียร์ยอดครึ่งหนึ่งของสร้อยเพชรบูการีให้กับบริษัทแบรนด์เนมมันนี่ไปแล้วและมีการทำข้อตกลงบันทึกทางแพ่งกันและจะมีการถอนฟ้อง คาดว่าเร็วๆนี้ ส่วนกระเป๋า 2 ใบ ได้มีการเจรจาเบื้องต้นกับทางร้านจำนำ และจะไปเคลียร์เพื่อนำมาคืน ส่วนที่กองปราบจะเรียกตัวดิวไปชี้แจง ทนายเองก็ทราบจากข่าว แต่ก็ยังไม่มีตำรวจประสานมา แต่ถ้ามีหมายเรียก หรือ ประสานมาก็ยินดีจะเข้าไป และเร็วนี้ๆ จะมีการนัดทุกฝ่ายไปคืนของที่เหลือทั้งหมด ทั้งสร้อยบลูการี และกระเป๋า

ส่วนเรื่องการถอนฟ้องคดีของคุณเมย์ วาสนา ซึ่ง คุณเมย์ วาสนา ก็ตั้งใจอยู่แล้วหากว่าดิวคืนทุกอย่างหมด ถ้าทุกอย่างเคลียร์จบ คุณเมย์ก็พร้อมที่จะถอนฟ้องทั้งหมด เชื่อว่าทุกอย่างจะเคลียร์จบก่อนที่คดีจะไปถึงในชั้นศาล ส่วนเงินที่คุณเมย์ ช่วยจำนวน 1.75 ล้าน ดิวก็จะไปคืนเงินจำนวนนี้กลับคุณเมย์เอง

ดิว ยังได้ขอบคุณพี่เมย์ ทุกคนอาจจะเข้าใจว่า เราทะเลาะกัน แต่พี่เมย์เป็นพี่ที่น่ารักกับดิวมาโดยตลอด และที่ผ่านมาเราคุยกัน พี่เมย์พร้อมจบ พี่เมย์เป็นคนดี น่ารักกับดิว เรื่องถอนฟ้องพี่เมย์ก็พร้อม และดิวยังได้ ขอบคุณพี่ชายคนหนึ่งในวงการที่คอยช่วยเหลือดิวทำให้เรื่องมันคลี่คลาย ซึ่งพี่ชายคนนี้ เป็นคนโทรฯหาดิวเอง และตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยเหลือดิว ทั้งที่ดิวไม่เคยโทรไปหา ในช่วงแรกดิวยังรู้สึกกลัว เพราะสถานการณ์ตอนนั้นมันกดดันมากๆ ถ้าเราโทรไปหาใครคงต้องรู้สึกขยะแขยงเราแน่ แต่พี่คนนี้กลับเป็นคนนึงที่โทรมาหา เพื่อที่จะช่วยเราจึงอยากพูดถึงเขาและขอบคุณ ที่คอยช่วยประสานต่างๆให้

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ตอนนั้นว่าทำไมถึงต้องยืมทรัพย์สินไปมากมายอละยอดทั้งหมดเท่าไหร่ ดิวบอกว่า ยอดมันปะปนหลายเจ้า แต่รวมๆ 20 ล้าน ต้นเหตุผลมันคือความผิดของดิวเอง จะโทษว่าดิวใช้เงินเกินตัวก็ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตอนนั้นดิวทำธุรกิจหลายอย่างแต่สุดท้ายมันก็ล้ม ขาดทุนเยอะมาก ส่วนที่เหลือเขาบอกว่าใช้เงินเกินตัว ก็เป็นเรื่องที่ดิวต้องยอมรับ และบอกว่าในชีวิตเรามีหลายมุมมอง อยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะดิวยังต้องมีภาพบางอย่างที่เราต้องประคองไว้ ซึ่งนี่แหละคือความยากของเราในตอนนั้น

เมื่อถามเรื่องครอบครัว ดิวก็ร้องไห้ออกมา บอกว่าลูกๆมีความสุขดี ตอนที่อยู่ต่างประเทศก็อยู่ด้วยกันตลอด ส่วนคุณสามีความสัมพันธ์ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วแต่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน การใช้ชีวิตไต้หวัน ดิวไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกับสาสี แต่ดิวอยู่กับลูก ในทุกวันดิวบอกตัวเองให้สู้ และดิวเคยคิดที่จะไปจากโลกใบนี้ แต่ดิวก็ไม่ทำ เพราะดิวได้พลังจากลูกๆ ถ้าไม่มีลูกดิวคงไปแล้ว

ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าดิวหนี แต่ดิวขอไปตั้งหลัก แต่พอลุกขึ้นสู้ได้ก็มีเรื่องคุณพ่อเสีย ทำให้ดิวต้องไปตั้งสติและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนั้นปัญหาเข้ามาทุกอย่างเหมือนจังหวะไม่มีโอกาสให้เราได้ออกมาสักที  ที่ผ่านดิวเผชิญความจริงมาโดยตลอดและแก้ไขมาโดยตลอด ดิวสงสารเจ้าหนี้ แต่ไม่ใช่ว่าดิวไม่ทำอะไรเลย

เมื่อถามว่า มีโอกาสจะได้เจอกับคุณเมย์ วาสนา หรือไม่ ดิวบอกว่า เราคุยกันตลอด มีอะไรก็คุยกัน มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกไป พี่เมย์ยังส่งข้อความมาหาบอกว่าพี่ดีใจกับเรา พี่เมย์ส่งกำลังใจให้เรา

ส่วนประเด็นที่ดิวไปยืมเงินคนในวงการ จำนวน 20 ล้าน ส่วนนี้ทนายความ บอกว่าตนก็เพิ่งทราบเหมือนกันขอไปรวบรวมข้อเท็จจริงก่อนและจะประสานคุยกัน เรื่องนี้ไม่ใช่ตามที่ปรากฎ แต่มันมีอะไรมากกว่านั้น แต่ผมขอไปศึกษารายละเอียดและดู detail ที่ไปที่มาก่อนอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล