วันนี้ (8 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้กำลังเข้าสู่ช่วงข้าวนาปีหลายพื้นที่ใน จ.นครราชสีมา กำลังเร่งลงมือหว่านและปักดำข้าวในช่วงนี้ ซึ่งบางส่วนยังได้นำเงินช่วยเหลือชาวนาที่ทางรัฐบาลได้จ่ายให้กับชาวนาไร่ละ 1,000 บาท คนละไม่เกิน 10 ไร่ มาลงทุนทำนา โดยที่แปลงนาของ นางรุ่งณภา ยะวงค์ษา อายุ 64 ชาวนา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กำลังใช้รถดำนาที่เพิ่งถอยออกมาใหม่ปักดำต้นข้าวในแปลงนา
นางรุ่งณภา บอกว่า เงินที่ทางรัฐบาลช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เพียงพอต่อการทำนา เพราะต้นทุนการทำนาเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเงินช่วยเหลือดังกล่าวออกมาช้า ทำให้ไม่ทันในช่วงการปลูกข้าวนาปี ซึ่งเกษตรกรบางคนก็ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือดังกล่าว อาจมีความจำเป็นต้องไปกู้เงินมาลงทุนปลูกข้าวไปก่อน จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลใหม่ ว่าสิ่งไหนที่ดีของรัฐบาลก่อนที่ประชาชนพอใจก็หยิบมาใช้ และอยากให้หันมาใส่ใจเกษตรกรอย่างจริงจัง เพราะเกษตรกรถือว่าเป็นอาชีพที่สำคัญของประเทศที่คอยปลูกข้าวให้กิน ถ้าชาวนาอยู่ไม่ได้ ไม่สามารถปลูกข้าวได้ แล้วพวกคุณจะอยู่กันอย่างไร
นางรุ่งณภา บอกอีกว่า เมื่อคราวที่แล้วขาดทุนจากการขายข้าวแบบย่อยยับ เพราะข้าวกิโลกรัมละ 5 บาท ก่อนหน้านั้นกิโลกรัมละ 9 บาท ก็ยังถือว่าพออยู่ได้ ถึงแม้มีกำไรไม่มาก แต่ปัจจุบันหากบวกลบแล้วเงินที่หายไปจากราคาข้าวที่ตกต่ำและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นเงิน 1-2 แสนบาท จากการที่ตนทำนากว่า 50 ไร่ ซึ่งถ้าสถานการณ์ราคาข้าวยังเป็นต่อไปอย่างนี้ ชาวนาคงอยู่ไม่ได้ จึงอยากให้รัฐบาลใหม่ช่วยเรื่องการปรับราคาข้าวให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยกิโลกรัมละ 9 บาท เพราะต้นทุนค่าปุ๋ยและอื่น ๆ สูงไปหมด แต่ราคาข้าวตกต่ำ
