เวลา 09.47 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 โดยปีนี้ สภามหาวิทยาลัยทักษิณ มีมติเป็นเอกฉันท์ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกายแด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการกีฬา ทรงมีพระวิริยอุตสาหะและทุ่มเทพระวรกายในการฝึกฝน จนทรงสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหลายประเภท และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยทรงตระหนักถึงสุขภาพของประชาชนว่าเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ จึงทรงส่งเสริมสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกถิ่นที่ทรงมีโครงการตามพระราชดำริเพื่อให้เด็กและชุมชนมีโอกาสเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และข้อมูลความรู้ด้านสุขอนามัยและการป้องกันโรคที่ถูกต้องเหมาะสม
จากนั้น พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน, พระราชทานเกียรติบัตรแก่บุคลากรตัวอย่างของมหาวิทยาลัยทักษิณ 5 คน แล้วพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี รวม 2,965 คน
โอกาสนี้ มีพระราโชวาทความว่า "ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานทั้งปวง ให้สำเร็จผลสมดังมุ่งหมายนั้น นอกจากบัณฑิตจะต้องใช้ความรู้ความฉลาดที่ได้เล่าเรียนสั่งสมมา เป็นปัจจัยที่สำคัญแล้ว ยังต้องมีคุณธรรมเป็นเครื่องกำกับจิตใจ มิให้นำความรู้ความฉลาดไปใช้ในทางที่มิชอบด้วย คุณธรรมประการหนึ่งที่ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเสมอ ก็คือ ความซื่อสัตย์ คุณธรรมข้อนี้ ถือได้ว่าเป็นพื้นฐานของความดี และเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันความไม่ดีทั้งหลายมิให้เข้ามากล้ำกรายได้ บัณฑิตทั้งหลายสำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญที่จะเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม และมุ่งสร้างบัณฑิตให้เป็นนวัตกรที่มีคุณภาพ จึงควรจะได้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ทั้งในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน กล่าวคือ เมื่อจะสร้างสรรค์นวัตกรรม ก็สร้างขึ้นจากความคิดและปัญญาของตน มิใช่คัดลอกหรือหยิบยกผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่เบียดเบียนผู้อื่นหรือเบียดบังส่วนรวมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะนำมาซึ่งความสุข ความสมัครสมานสามัคคี ความเจริญก้าวหน้า และความมั่งคั่งยั่งยืนให้แก่สังคมอย่างแท้จริง หากบัณฑิตรักษาคุณธรรมความซื่อสัตย์นี้ไว้ เป็นเครื่องกำกับประคับประคองตนอยู่เสมอแล้ว แต่ละคนก็จะเป็นนวัตกรที่มีคุณภาพ สามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้บรรลุถึงความสำเร็จตามที่มุ่งหมาย อีกทั้งรักษาเกียรติ และศักดิ์ศรีของตนเอง ของวงศ์ตระกูล และชาติบ้านเมืองไว้ได้ อันจะนำมาซึ่งความดีความเจริญอย่างแท้จริงและยั่งยืน"
เวลา 13.43 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์การแพทย์แบบองค์รวม มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง เพื่อเป็นหน่วยงานให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม โดยบูรณาการการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก เพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันและรักษาโรค และการฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืนแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและใกล้เคียง ภายใต้หลักการการให้บริการสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อทุกคน เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นมหาวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม รวมทั้งเป็นหน่วยงานที่มุ่งเน้นสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและชุมชนจากระดับพื้นที่สู่ระดับนานาชาติ "จากรากสู่โลก" และการวิจัยและพัฒนากำลังคนด้านสาธารณสุข เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมและชุมชน ตามวิสัยทัศน์และพันธกิจของมหาวิทยาลัยทักษิณ
โดยมีพื้นที่ใช้สอย 12,000 ตารางเมตร รองรับการเป็นสถานพยาบาลชั้นนำ ที่ดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร พร้อมศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยใน จำนวน 132 เตียง ประกอบด้วยพื้นที่บริการหลัก ได้แก่ โซนผู้ป่วยนอกและการแพทย์บูรณาการ, โซนผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉิน, โซนหอผู้ป่วยใน, โซนวินิจฉัยและสนับสนุนทางการแพทย์ เมื่อแล้วเสร็จ จะให้บริการประชาชน, สนับสนุนการเรียนการสอน และพัฒนาทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศสืบไป
