1 ต.ค. 68 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นเยาวชนหญิง เหตุเกิดภายในหมู่บ้านห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่สายตรวจเขต พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ พบเยาวชนหญิง อายุ 15 ปี มีบาดแผลถูกเลื่อยฟันที่ฝ่ามือขวาจนเกือบขาด และบริเวณสีข้างเป็นรอยฟันเลื่อย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น พ่อของผู้บาดเจ็บนั้นเอง เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับตัวได้ที่บริเวณป่าหญ้าใกล้เคียงบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.บางแก้ว
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และผู้เข้าไปช่วย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวนอนเล่น ตัวพ่อเรียกจะใช้งาน แต่ลูกสาวนอนนิ่ง ๆ เหมือนไม่ได้ยินหรือว่าไม่ใส่ใจอะไร คนเป็นพ่อจึงโมโหเลยคว้ามีดมาวิ่งไล่ทำร้ายลูกสาว ทางลูกสาวจึงหยิบเลื่อยมาป้องกันตัว แต่ว่าทำเลื่อยตกลงพื้น ผู้เป็นพ่อเลยหยิบเลื่อยขึ้นมา แล้วฟันไปที่บริเวณด้านหลังและบริเวณฝ่ามือของลูกสาวจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งปกติ พ่อลูกคู่นี้ทะเลาะกันบ่อย แต่ก็ไม่เคยใช้อาวุธ แล้วก็เคยมีตำรวจมาห้ามบ่อยเหมือนกัน
ด้านนายธีรศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ ให้ข้อมูลขณะที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้แล้วว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ปีนขึ้นไปเก็บขี้เหล็ก แล้วเรียกให้ลูกสาวเอาถุงมาให้ ตอนนั้นลูกนอนเล่นเกมอยู่ เรียกเท่าไรเขาก็ไม่ยอมลุก เขาบอกว่าเรียกทำไม ตนจึงลงมาต่อว่า แต่ตัวลูกสาวกับพูดจาหยาบคาย ขึ้นมึงขึ้นกูกับตน แล้วหลังจากนั้นก็มีการทะเลาะกัน เขาได้หยิบเลื่อย มาทำร้ายตนก่อน พอเลื่อยตกพื้นตนจึงหยิบเลื่อยฟันลูกสาวคืนกลับไป ตนเองทำงานที่นี่ ตนปลูกกระท่อมอยู่ด้านหลัง ส่วนบ้านด้านหน้าเป็นบ้านหัวหน้า
ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกสาว เล่าให้ฟังว่า ตอนแรกตนเองไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่อยู่ที่สถานสงเคราะห์จังหวัดปัตตานี อาศัยอยู่ที่นั่นได้ 8 ปีแล้ว แต่ได้หนีออกมา ขึ้นรถไฟมาลงหัวลำโพง แล้วก็ต่อรถจักรยานยนต์มาที่นี่ ตอนที่เกิดเหตุ ตนเล่นอยู่กับน้องข้างบ้าน ตอนนั้นพ่อเรียกใช้งานตน แต่ตนไม่ไป พ่อเลยโมโห เขาใช้เลื่อยฟันตน จนได้รับบาดเจ็บ เขาทำแบบนี้มา 3 รอบแล้ว เขาเป็นพ่อแท้ ๆ ของตน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านละแวกนั้น บอกกับผู้สื่อข่าวว่า แต่ก่อนตัวพ่อเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีบ้านอยู่ ตนก็สงสารเด็ก เห็นตัวเล็ก ๆ ตอนนั้นยังเป็นเด็กอยู่ จึงโทรเรียกเจ้าหน้าที่ให้มารับไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่จังหวัดปัตตานี
