กัน จอมพลัง ส่งหลักฐานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ให้กระทรวงมหาดไทยตรวจสอบ ขอพักงานช่วยเหลือสังคมใช้เวลากับครอบครัว หลั่งน้ำตาพูดถึงลูกสาว การทำความดีมันยาก
วันนี้ (24 ต.ค. 68) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” พร้อมทีมงานมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ เดินทางไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งมอบเอกสารหลักฐานบัญชีรายรับ รายจ่าย ของมูลนิธิฯ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และความโปร่งใสในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ หลังถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคมเกี่ยวกับเงินบริจาคในบัญชี
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตอนนี้รู้สึกโล่งใจขึ้น เพราะสามารถอธิบายได้ทุกประเด็น พร้อมมีหลักฐานประกอบชัดเจน เชื่อว่าหลังจากนี้หลายคนคงเข้าใจมากขึ้น ซึ่งการมาที่กระทรวงมหาดไทย ก็เพื่อตรวจสอบให้เห็นว่ามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้มีความโปร่งใส และถือเป็นบรรทัดฐานให้กับมูลนิธิอื่น ๆ ต่อไปซึ่งตนพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอนในการตรวจสอบ เพราะเชื่อว่ากระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครอง มีระบบตรวจสอบที่ชัดเจน หากพบสิ่งใดไม่โปร่งใสก็สามารถดำเนินการได้ทันที
ส่วนประเด็นที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตำหนิว่าเหมือนเด็กขัดขับรถนั้น ยอมรับว่าคิดน้อยเกินไป ตนเพียงต้องการเร่งให้มูลนิธิฯได้ทำงานเร็วที่สุด พร้อมขอโทษ ร.อ.ธรรมนัส ที่ถูกนำชื่อไปพาดพิง ซึ่งตนเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่อาจรีบเกินไป ไม่ได้คิดรอบคอบ ส่วนเงินบริจาคทั้งหมดที่เข้ามูลนิธิฯก็ได้นำไปช่วยสร้างประโยชน์ให้กับสังคม ไม่มีการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือทุจริตใด ๆ โดยทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน หรือบัญชีม้า ก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที
กัน จอมพลัง บอกอีกว่า ในส่วนประเด็นที่ทนายเดชาพูดถึงเรื่องรถยนต์นั้น ยืนยันว่ารถคันดังกล่าวซื้อมาจริง แต่โอนไม่ได้ จึงส่งคืนเจ้าของไปตั้งแต่หลายปีก่อน และไม่เคยใช้รถคันนั้นแล้ว สำหรับการแต่งตั้งประธานมูลนิธิฯคนใหม่นั้น จะมีการประชุมที่โกดังของมูลนิธิฯ เพื่อพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนชื่อประธานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงบทบาทของ กัน จอมพลัง หลังจากนี้ เจ้าตัวยืนยันว่า จะขอพักการทำงานช่วยเหลือสังคมไปสักระยะใหญ่ เพื่อใช้เวลาอยู่กับครอบครัว เพราะสิ่งที่ตนขาดมาตลอดคือเวลาอยู่กับลูก วันนี้อยากอยู่กับน้องหมี่เกี๊ยว ลูกสาว พร้อมกล่าวด้วยน้ำตาว่า ถ้าลูกได้เห็นพ่อในวันนี้ อยากให้รู้ว่า สิ่งที่พ่อทำทั้งหมดคือความจริงใจในการช่วยคน การทำความดีมันยาก ถึงระหว่างทางมันจะยากมีอุปสรรค แต่ถ้าวันหนึ่งลูกโตขึ้น อยากให้ภูมิใจในสิ่งที่พ่อทำ และถ้าลูกจะเดินทางแบบเดียวกับพ่อ ขอให้เข้มแข็งกว่าพ่อ พ่อจะอยู่ข้างลูกเสมอ
