เจ้าของบ้านสุดตกใจ เจอผู้หญิงมาแอบอยู่ในบ้าน เผยถูกผัวทำร้ายจึงหนีมาหลบ ทางตำรวจจึงไปพาตัวผัวมา ผัวยอมรับเตะเมียไป 1 ที ก่อนจะขอโทษและหอมแก้มเมียไป 2 รอบ และให้สัญญาจะไม่ทำร้ายอีก สุดท้ายยอมดีกัน
วันนี้ (2 พ.ย. 68) ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงบุกรุกเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ 12 หมู่ 8 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจเข้าไปตรวจสอบ
ณ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้น กำลังก่อสร้าง พบ น.ส.ขจรศรี อายุ 53 ปี (เจ้าของบ้าน) แจ้งว่า ตนสร้างบ้านใหม่เสร็จประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ โดยปกติตนจะอยู่บ้านตลอด แต่วันนี้ได้ออกไปทำธุระนอกบ้าน ต่อมาหลานซึ่งอยู่บ้านใกล้กัน ได้โทรศัพท์ไปบอกตนว่า ที่บ้านดูผิดปกติเหมือนมีคนเข้าไปอยู่ในบ้าน ตนจึงรีบกลับมาบ้าน ก็พบผู้หญิงอยู่ภายในบ้าน พอผู้หญิงคนดังกล่าวเห็นตนก็รีบวิ่งหนี ตนก็วิ่งไล่ จนสุดท้ายผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยอมมาขอโทษบอกว่าโดนสามีทำร้าย ตนก็กลัวว่าเขาจะโกหกและทำร้าย จึงแจ้งตำรวจ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและ นางแสงเพชร เกาะแก้ว อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองใหญ่ ได้ควบคุมตัวผู่หญิงคนดังกล่าวไว้ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.เสาวภา อายุ 37 ปี จากการสอบสวน น.ส.เสาวภา ให้การว่า เป็นคนงานก่อสร้าง และอาศัยอยู่ที่แคมป์คนงานกับสามี แต่วันนี้ตนโดนสามีทำร้ายร่างกาย ตอนพักกลางวันจึงได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งไม่มีใครอยู่ ตนโดนสามีจะทำร้ายร่างกายประจำ เวลาตนทำอะไรให้ไม่ถูกใจก็จะถูกตบ เตะ และถึงขั้นจะถูกมีดแทง ตนไม่ได้มีเจตนาจะเข้ามาขโมยสิ่งของแต่อย่างใด
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายศรีสุวรรณ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นสามี น.ส.เสาวภา มาจากแคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อมาสอบถาม ซึ่ง นายศรีสุวรรณ ให้การว่า ตนกับ น.ส.เสาวภาจริง อยู่ด้วยกันประมาณ 3 ปี เมียเป็นคนไม่ค่อยพูด พวกตนได้มาทำงานก่อสร้างถนนที่สี่แยกบ้านหนองใหญ่ ถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี เมียมีหน้าที่โบกรถ แต่เมียจะชอบมาทำงานช้า ตนเกรงว่าผู้รับเหมาจะตำหนิ วันนี้ก็ไปทำงานด้วยกันตามปกติ แต่พอพักกลางวันตนกลับไม่เห็นเมีย ตนยอมรับว่าเมื่อเช้าได้เตะโดนแขนเมียไป 1 ครั้ง กระทั่งมีตำรวจมาตามว่าเมียเข้าไปในบ้านคนอื่น ตนก็ตกใจรีบมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกประวัติบุคคลทั้งสอง และให้ นายศรีสุวรรณ และ น.ส.เสาวภา สามีและภรรยาไหว้ขอโทษ น.ส.ขจรศรี เจ้าของบ้านซึ่งตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าของบ้านก็ไม่ติดใจเอาความ เพราะทรัพย์สินในบ้านไม่ได้เสียหาย แต่ขออย่าทำอีกเพราะตกใจและกลัว
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ ก็รับปากว่าจะไม่ทำร้ายเมียอีก พร้อมกับขอโทษและกอดคอหอมแก้มเมีย แต่ น.ส.เสาวภา ยังไม่หายโกรธและไม่ให้อภัย จะขอเลิกกับ นายศรีสุวรรณ และเดินทางกลับบ้านที่ชัยภูมิ ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านหนองใหญ่ ได้เข้าเจรจาเกลี่ยกล่อมทั้งสองฝ่ายว่า ครั้งนี้อยากให้เมียให้อภัยผัว แต่ถ้าผัวทำร้ายร่างกายเมียอีก ผู้ใหญ่บ้านจะเป็นผู้พาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีเอง ถ้าให้อภัยกัน พรุ่งนี้จะให้ทั้งสองมาทำสัญญาตกลงกันว่า จะไม่ทำร้ายเมียอีก ทำให้ น.ส.เสาวภา พอใจและยอมให้อภัย ซึ่ง นายศรีสุวรรณ ก็ได้ขอโทษและกอดคอหอมแก้มเมียอีกครั้ง ก่อนจะนั่งรถจักรยานยนต์กลับแคมป์คนงานไปด้วยกัน
