“บิ๊กเล็ก” รับ กัมพูชาต่อรองเก็บกู้ทุ่นระเบิด 5 พื้นที่จากฝ่ายไทยเสนอ 13 พื้นที่ ย้ำ ปราสาทตาควายเป็นของไทย แต่ขอใช้หลักเจรจาก่อน ส่วนใช้กำลังคือหนทางสุดท้าย พร้อมเร่งทำ 5 เรื่องเร่งด่วน
วันนี้ (6 พ.ย.68) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงกรณีปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ว่า เป็นเขตอธิปไตยของไทย เพียงแต่ว่า ในช่วงนี้ เราจะทำในสิ่งที่ได้ตกลงกับฝ่ายกัมพูชางานสำคัญ มีอยู่ 5 อย่างก็คือ
1.การถอนอาวุธหนัก เนื่องจากอาวุธหนักหากคงอยู่ในพื้นที่ และหากมีการใช้กำลัง และอาวุธ จะทําให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งสองฝ่าย จึงให้การถอนอาวุธหนักเป็นลําดับแรกที่ต้องดําเนินการ และได้เน้นย้ํา กับทางฝ่ายกัมพูชา
2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตน และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น มีความเจ็บปวด มีกำลังพลขาขาดถึง 6 นาย จากการที่ฝ่ายกัมพูชาวางทุ่นระเบิดไว้ จึงเน้นย้ำกับฝ่ายกัมพูชาว่า จะต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิด ถึงแม้ว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไม่เก็บกู้ในเขตของเขา ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT แต่ฝ่ายไทยจะต้องเก็บกู้ได้ในเขตอธิปไตยของเรา
3.การบริหารจัดการชายแดน เราจะต้องจัดการทวงคืนพื้นที่ที่เป็นของไทยกลับมา ภายใต้ข้อตกลงร่วมโดยใช้กลไกของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC โดยเฉพาะบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อําเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ต้องพยายามเต็มขีดความสามารถตามที่ได้ตกลงกับกัมพูชาไว้แล้ว
4.การสร้างรั้วชายแดน ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาระยะทาง 798 กิโลเมตร ต้องมีองค์ประกอบภูมิประเทศ 3 ด้าน ก็คือ 1.สันปันน้ำ ต้องเป็นความเร่งด่วน ส่วนที่จะดําเนินการสร้างรั้ว เนื่องจากสันปันน้ํามีความชัดเจนอยู่แล้ว 2.ลำน้ำ ก็มีความชัดเจนเช่นเดียวกัน แต่การสร้างรั้วมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างกัน การสร้างรั้วบนริมตลิ่งจะทำให้เสียอธิปไตย แต่หากจะสร้างรั้วในกึ่งกลางลำน้ำ ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น สิ่งที่กองทัพคิดเอาไว้ก็คือการสร้างรั้วอิเล็กทรอนิกส์ 3.แนวเขตที่เป็นเส้นตรงสามารถดําเนินการได้เลย เช่นพื้นที่ที่เป็นนา -ป่า ซึ่งประชาชนจะไม่ทราบ หลักเขตอยู่ห่างกันบางหลัก ไม่น้อย 1 กม.บางหลัก 5 กม.บางหลัก 10 กม. มองบนพื้นดินเราจะไม่เห็นเส้นเขตแดน จึงมีบ้างพื้นที่มีการล้ำกันไปมา ซึ่งบริเวณนั้นเราจะเริ่มสร้างรั้ว ซึ่งจะเป็นรั้วค่อนข้างกึ่งถาวร คือด้านล่างเป็นรั้วทึบ ด้านบนเป็นรั้วโปร่ง และมีแนวรั้วลวดหนาม นี่คือสิ่งที่จะทําในเขตแดนที่เป็นเส้นตรง ทั้งนี้ตนได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขอให้เร่งรัดดําเนินการจุดที่ดําเนินการได้ หมายถึงจุดที่มีการตกลงเรื่องหลักเขตกันแล้ว ให้สร้างรั้วระหว่างหลักเขตนั้น ซึ่งกําลังเร่งรัดดําเนินการ
5. การปราบปรามสแกมเมอร์ ตนพูดในนามของรัฐบาลเป็นสิ่งที่เราต้องดำเนินการ แต่หน่วยที่รับผิดชอบก็คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ, กระทรวงมหาดไทย และทุกส่วนของราชการที่เกี่ยวข้อง แม้กองทัพจะเกี่ยวข้องน้อย แต่ก็พร้อมที่จะสนับสนุน นี่คือ งานสำคัญ 5 งานเฉพาะหน้า ที่ต้องเร่งดำเนินการตามที่ตกลงกันได้แล้ว
พล.อ.ณัฐพล ระบุ ส่วนงานอื่น ๆ ที่ยังมีเหลืออีกมากมาย โดยกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ เพียงแต่ปัจจุบันสังคมอยากทราบว่า เช่น กรณีปราสาทตาควาย ยืนยันว่า อย่างไรก็เป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย แต่เราจะดำเนินการในภายหลัง จากการที่พูดคุยกับฝ่ายกัมพูชาว่า จะทำอย่างไรกัน ซึ่งต้องมาคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้หมายความว่า จะต้องใช้กำลัง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่า จะไม่ต้องใช้กำลังในภายหลัง แต่ในเบื้องต้นจะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ผ่านกลไกทวิภาคี ที่ยังคงเดินต่อไปได้ก็คือ คณะกรรมธิการชายแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC คือ สิ่งที่เตรียมการไว้ หากเราทำ 5 อย่างได้สำเร็จก็จะเป็นสัญญาณที่ดี ทุกอย่างจะมีความคืบหน้า แต่ถ้าทําพร้อมกันมากกว่า 5 เรื่อง จะเกินขีดความสามารถของรัฐบาล และกองทัพ แต่ยืนยันกับประชาชน เราไม่ได้ละทิ้ง หรือละเลยแต่ขอให้ทําไปตามลําดับ สถานการณ์ปัจจัยสภาพแวดล้อม ที่จะสามารถดําเนินการได้
เมื่อถามว่า กรณีปราสาทตาควาย หากการเจรจาไม่ได้ข้อยุติ การใช้กําลังก็อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ แต่เราจะใช้แนวทางสันติวิธีก่อน โดยใช้กลไกที่มีอยู่ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเข้าตีคืน เว้นแต่ว่า เกิดอุบัติเหตุที่เราไม่คาดคิด การใช้กําลังก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนปราสาทคนา ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างบันได และล่าสุดสร้างกระเช้ารุกคืบเข้ามา พล.อ. ณัฐพล กล่าวว่า เป็นเรื่องลําดับที่ 6 และที่ 7 นอกเหนือจาก 5 เรื่องเร่งด่วน ซึ่งเราจะทำในสิ่งที่ทำได้ การทำหนังสือประท้วง แต่ยังไม่ใช่ภารกิจ ที่ต้องดําเนินการเป็นการใหญ่ แต่จะทําต่อหลังจากนี้ หากดําเนินการ 5 อย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า จะใช้แนวทางสันติวิธีลําดับแรก ส่วนการใช้กําลังเป็นแนวทางที่ไม่พึงประสงค์ แต่อยากจะเรียน แนวทางที่ผ่านมาเป็นแนวทางที่นานาชาติยอมรับ จากกรณีที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลง ในเวทีต่างประเทศรอบที่แล้ว นานาชาติให้ความชื่นชมว่า แนวทางที่เราดำเนินการมาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง และจะยึดแนวทางนี้ต่อไป ส่วนการใช้กําลังกรณีที่จําเป็นเท่านั้น
เมื่อถามว่าการ เก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 13 พื้นที่ที่ฝ่ายไทยเสนอไป ฝ่ายกัมพูชาต่อรองเหลือ 5 พื้นที่นําร่อง และในส่วนพื้นที่ปราสาทตาควายกัมพูชา ไม่ตอบรับนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราดําเนินการใน 5 พื้นที่ไปก่อน หากเรียบร้อยก็จะมาพูดคุยใน 8 พื้นที่ที่เหลือว่า จะทําอย่างไร หากสถานการณ์มีความคืบหน้าไปเรื่อย ๆ เชื่อว่า บรรยากาศจะคลี่คลายขึ้น