น้ำท่วมมานาน 4 เดือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด ตาวัย 70 ขึ้นไปอยู่บนหลังคา ใช้ผ้ากางกันแดด ใช้ฟูกที่นอนกันฝน ตายิ้มบอกนักข่าว แม้เมื่อคืนฝนตกหนัก แต่ฟูกเอาอยู่ ตาไม่เปียก นอนบนหลังคาได้ หลังจากนี้ภาวนาขอให้น้ำลดลงเร็ว ๆ ขณะที่ หญิงวัย 67 อีกคน ออกมานอนบนเรือรับลม เพราะในบ้านน้ำท่วมหมด มีเพียงเตียงนอนสี่เหลี่ยมให้อยู่เท่านั้น
(13 พ.ย.68) นางจันทร์จ้าว โพธิสุทธิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.อยุธาฯ พาผู้สื่อข่าวช่อง7 HD ลงสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำ โดยนางจันทร์จ้าว ให้ข้อมูลว่า ในพื้นที่ตำบลหัวเวียง มีแม่น้ำน้อยคั้นกลาง ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหลักพันครัวเรือน แม้พื้นที่บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่สุดในประเทศไทย แต่ปีนี้น้ำท่วมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำน้อย อาศัยอยู่กับน้ำท่วมมานานเข้าเดือนที่ 4 แล้ว และคาดว่า น้ำจะท่วมไปอีกสองเดือน ชาวบ้านหลายหลัง ต้องปรับตัวคนทำงาน จะออกไปหาที่พักอาศัยด้านนอก เพื่อสะดวกในการไปทำงาน ส่วนคนที่อยู่ภายในบ้านก็จะเป็นผู้สูงอายุ หรือคนที่ไม่ได้ทำงาน ผู้นำชุมชนจึงมีหน้าที่คอยดูแลและส่งอาหารให้กับชาวบ้านที่ยังคงอยู่ภายในบ้าน สำหรับสถานการณ์เช้านี้ในพื้นที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นหลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนและช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่ ลุงละเอียด อายุ 70 หนึ่งในผู้ประสบภัย เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้ เพียงคนเดียวโดยน้ำเริ่มท่วมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและครั้งนี้เป็นรอบที่สี่ของปีที่น้ำท่วมระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยเรื่อยๆ บ้านหลังนี้มีอายุ 70- 80 ปี เป็นบ้านสองชั้น ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยเรื่อยส่งผลให้ตนเองต้องเปิดหลังคาและอาศัยหลับนอนอยู่บนหลังคา ซึ่งขึ้นมาอยู่บนหลังคาได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้ว โดยใช้ผ้ามาบังแดด และใช้ฟูกที่นอนที่ทำจากกากมะพร้าวมาเป็นหลังคา เพราะหากฝนตกลงมาฟูกนี้ จะเก็บน้ำทำให้ตนเองไม่เปียก และยังพอนอนอยู่บนหลังคาได้ ส่วนไฟฟ้าไม่มีใช้กลางคืนใช้ตะเกียงแทน เพราะไฟฟ้าถูกตัดไปแล้ว ประมาณครึ่งเดือนที่ผ่านมา
สำหรับอาหารตนเองทำเองโดยมีเตาแก๊สอยู่บนหลังคาด้วย อย่างเช่นเมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองก็ทำยำปลากระป๋องกินโดยได้ตะไคร้กับพริกพืชผักสวนครัวที่ปลูกไว้โดยมีฝาลังโฟมทำให้พืชเหล่านี้ลอยน้ำ และยังคงพอได้เก็บกินผลผลิต สำหรับการเข้าห้องน้ำถ้าเป็นธุระหนักก็จะพายเรือออกไปถ่ายไกลๆส่วนถ้าเป็นธุระเบาก็สามารถปัสสาวะตรงนี้ได้เลย
ส่วนสาเหตุที่ตนเองไม่ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน น้ำท่วมมาเป็นระยะเวลานานจึงเลือกที่จะอยู่ที่บ้านของตัวเอง อีกทั้งยังเป็นห่วงข้าวของภายในบ้าน เพราะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาทั้งชีวิต น้ำท่วมปีนี้ค่อนข้างเยอะ และน้ำท่วมมาเป็นระยะเวลากว่า 4 เดือนแล้ว ตนเองจึงต้องปรับตัว หลังจากนี้ได้แต่คาดหวังว่าจะไม่มีฝนตกลงมาเติมน้ำในพื้นที่และระดับน้ำจะลดลงในเร็ววัน
ด้านป้าแดง อายุ 67 ปี อีกหนึ่งผู้ประสบอุทกภัย เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนี้คนเดียว โดยในช่วงเวลากลางคืน ก็จะเข้าไปนอนภายในบ้าน ซึ่งมีเตียงหนึ่งตัวที่ยกสูงขึ้นมา มีพัดลมหนึ่งตัว และกางมุ้งนอน พัดลมยังสามารถเปิดได้เนื่องจากภายในบ้าน ยังไม่มีการตัดไฟ ส่วนพื้นที่อื่นๆภายในบ้านน้ำท่วมหมดอยู่ได้เพียงแค่เตียงนอนสีเหลี่ยมเล็กๆ เท่านั้น
ช่วงกลางวันไม่สามารถอยู่ภายในบ้านได้เพราะอากาศค่อนข้างร้อนจึงออกมานอนเล่นอยู่ภายในเรือบริเวณหน้าต่างบ้าน ส่วนอาหารการกินก็กินบ้างไม่กินบ้างเพราะตอนนี้ไม่มีกระจิตกระใจที่จะทำกับข้าวกิน
ป้าแดง ยังบอกอีกว่า น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ก็ยังไม่ท่วมสูงขนาดนี้ รอบนั้นระดับน้ำยังไม่ถึงขอบหน้าต่างแต่ในปีนี้น้ำท่วมเลยขอบหน้าต่างขึ้นมาแล้ว สำหรับข้าวของภายในบ้านเสียหายเล็กๆ น้อยๆ แต่อย่างไรก็ตาม ข้าวของเหล่านั้นมันก็เป็นข้าวของของตนเอง ตนเองจึงเสียดายเป็นธรรมดา ตนเองรู้ว่าพื้นที่บ้าน เป็นพื้นที่รองรับน้ำ แต่ก็ไม่คิดว่าน้ำจะท่วมสูงและนานขนาดนี้