ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชายอายุ 67 ปี เล่านาทีเฉียดตาย เกือบจะหมดลมหายใจ หลังเกิดเหตุเรือล่ม กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว พัดชายคนดังกล่าวมาไกลเกือบ 1 กิโลเมตร
เคราะห์ดีรอดมาได้ เล่นเอาเกือบหมดลมหายใจกับฝันร้าย ผู้ประสบภัยชื่อ นายสนั่น วงชมพู อายุ 67 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เล่าด้วยความตกใจ บอกว่า พายเรือกำลังจะกลับเข้าบ้าน แต่กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและท่วมสูง ทำให้เรือล่ม ตนต้องลอยคออยู่กลางแม่น้ำน้อย แถว ๆ หน้าวัดโรงนา
กระแสน้ำได้พัดลุงสนั่นลอยมาไกลเกือบ 1 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางลุงสนั่นได้เกาะกิ่งไม้ พยุงตัวเองมาเรื่อย ๆ จนกู้ภัยได้นำเรือเข้าช่วยเหลือ
ส่วนที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล ชาวบ้านบางคนถึงกับพูดไม่ออก มีเพียงน้ำตาที่ไหลแทนคำพูด ถึงแม้รัฐบาลจะเตรียมเยียวยาให้เดือนละ 5,000 บาท แต่ชาวบ้านบอกว่า "มันดี แต่มันไม่พอ" เมื่อเทียบกับความเป็นอยู่
ส่วนชาวบ้านตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ต้องอยู่กับน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ทำให้ผู้ป่วยหลายคนต้องพายเรือ เดินลุยน้ำหาหมอ หากมีสะพานไม้ชั่วคราว เข้า-ออก ระหว่างถนนและโรงพยาบาล ก็คงสะดวกต่อผู้ป่วย และบุคลากรทางแพทย์
ส่วนที่อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ทีมข่าวติดเรือไปกับทีมกู้ภัยและจิตอาสา นำข้าวของไปมอบให้ผู้ประสบภัย เป็นครูและครอบครัวนักเรียน โรงเรียนวัดปราสาท กว่า 100 คน ที่อพยพมาอยู่วัด
ครูเล่าว่า ห้องเรียนของเด็ก ๆ ที่อยู่ชั้น 1 จมน้ำมากนานกว่า 2 สัปดาห์ อุปกรณ์การเรียนการสอนเสียหายหมด ตอนนี้ทั้งเด็กนักเรียน และครู จึงอพยพมาอยู่วัด โดยมีครูผลัดกันเฝ้าเวรยามดูแลเด็ก ๆ
วันนี้ ชาวบ้านในอำเภออินทร์บุรี ที่ได้รับผลผลกระทบ ทยอยเข้ามาลงทะเบียนยืนยันตัวตนการเป็นเจ้าบ้าน เพื่อรอรับเงินเยียวยา จำนวน 9,000 บาท
นางสมปอง อายุ 69 ปี บอกว่า บ้านน้ำท่วม ต้องหนีมาอยู่ชั้น 2 วันนี้ตั้งใจพายเรือออกจากบ้านมาลงทะเบียนยืนยันตัวตน เพื่อรอรับเงินเยียวยา ส่วนตัวมองว่าเงินเยียวยาไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท แม้ว่าจะลดการระบายน้ำลง แต่บางพื้นที่น้ำยังท่วมขังสูงถึง 2 เมตร ชาวบ้านยังใช้ชีวิตยากลำบาก
ขณะที่ สพป.ชัยนาท สั่งปิด 11 โรงเรียน ใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวัดสิงห์ อำเภอมโนรมย์ อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอสรรคบุรี และอำเภอสรรพยา
