ปานเทพ ปูดเขมรพัฒนาไปเยอะ มีทั้งโดรนโจมตี-แอนตีโดรน ฝ่ายไทยต้องเฝ้าระวัง แนะจับตา กพช.กู้ IMF อาจนำเงินไปใช้ทำอย่างอื่นมากกว่าปฏิรูปเศรษฐกิจ
วันนี้ (24 พ.ย.68) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิดเผยถึงกรณีมีโดรนจากฝั่งกัมพูชา บินเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยระบุว่า โดรนเกี่ยวข้องกับเวลาและเงิน ซึ่งนับตั้งแต่หยุดยิงหลังจากที่มีการปะทะ กัมพูชามีพัฒนาการไปเยอะมาก ได้แก่ ระบบแอนตีโดรนมีความแข็งแรงขึ้น ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ถ้าฝั่งไทย ไทยไม่ปรับหรือหายุทธโธปกรณ์ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เราจะบินเข้าไปในเขตกัมพูชาเพื่อสำรวจไม่ได้เลย
“เท่าที่ทราบการข่าวตอนนี้ โดรนจากฝั่งกัมพูชามีเยอะมาก และเป็นโดรนชนิดการโจมตี พร้อมพลีชีพถล่ม หลังจากที่หาพิกัดไว้เตรียมพร้อมแล้ว แปลว่าระยะเวลาที่นานนี้ ทำให้กัมพูชามีการเตรียมตัวหลายอย่าง รวมถึงอาวุธหนักที่เขาเพิ่งถอยไปล่าสุด ชัดเจนว่าเป็นอาวุธใหม่ที่เขาจัดมา
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า เราจึงต้องระวังว่า กัมพูชากำลังใช้งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นทางตรง ทางลับ หรือทุนสีเทา กำลังเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย ยิ่งนานไปจะยิ่งอันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่กัมพูชา จะขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งมีความกังวลว่าจะนำเงินมาซื้ออาวุธ นายปานเทพ กล่าวว่า เราต้องคิดว่ากัมพูชาจะกู้ IMF ทำไม เพราะปกติไม่ใช่ว่าใครจะกู้ได้
นายปานเทพ กล่าวอีกว่า หากกัมพูชาเกิดวิกฤตบางอย่าง เช่น ขาดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เขาคงไม่กล้าขอเงินจาก IMF จากโครงการการขาดทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะถ้าทำเช่นนั้น IMF ต้องกำหนดเงื่อนไขจำนวนมาก เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้กัมพูชาไม่กล้ายื่นโครงการแบบนี้ แต่เลี่ยงไปใช้การกู้ผ่านโครงการคลองฟูนันเตโช หลังจากที่จีนระงับ เนื่องจากเวียดนามสร้างถนนปิดกั้น ทำให้คลองดังกล่าวไม่สามารถออกทางทะเลในการขนส่งได้ จึงทำให้ความเป็นไปได้น้อยลง ดังนั้น กัมพูชาอาจกู้โดยใช้โครงการนี้ และนำเงินไปใช้อย่างอื่นแทนก็ได้ เราจึงต้องจับตามอง ไว้ใจเขาไม่ได้