คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด “จิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์” อดีต สส. “เพื่อไทย” กรณีครอบครองที่ดิน สปก.4-01 และ ใช้ประโยชน์คณะดำรงตำแหน่ง สส. เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
.
วันนี้ (8 ธันวาคม 2568) นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการฯ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
.
จากกรณีนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถือครองที่ดินตามหลักฐานหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ข) เลขที่ 2443 แปลงเลขที่ 2 กลุ่มที่ 2052 ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด เนื้อที่ประมาณ 49-1-59 ไร่ นั้น
ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ได้ถือครองที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ข) เลขที่ 2443 แปลงเลขที่ 2 กลุ่มที่ 2052 ตำบลหนองบอน อำเภอบ่อไร่ จังหวดตราด เนื้อที่ประมาณ 49-1-59 ไร่ ออกให้ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2544
.
และภายหลังจากที่นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเข้าปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับแล้ว นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ก็ยังคงยึดถือ ครอบครอง และแสวงหาประโยชน์จากที่ดินดังกล่าวเพื่อปลูกต้นยางพาราและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากต้นยางพาราเรื่อยมา
.
ทั้งที่ทราบดีว่าคุณสมบัติในการได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมนั้นหมดสิ้นไป เนื่องจากตนไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักและมีรายได้ประจำจากเงินเดือนและค่าตอบแทนเพียงพอแก่การยังชีพอยู่แล้ว การที่นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ เพิกเฉยไม่แจ้งสละสิทธิการครอบครองที่ดิน หรือส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวคืนให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) โดยเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงมิให้ที่ดินที่ตนครอบครองเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อนำที่ดินไปจัดสรรให้กับเกษตรกรหรือผู้มีสิทธิตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองและเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์การดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
.
การกระทำของนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 7 ข้อ 8 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 วรรคหนึ่งและวรรคสอง
.
ให้เสนอเรื่องการกระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามฐานความผิดดังกล่าว ต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไป