สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี มีความกังวลว่าโรคฝีดาษลิงจะระบาดในชุมชน หลังมีรายงานว่า พบชาวอเมริกันในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ติดเชื้อฝีดาษลิง หลังเดินทางกลับมาจากไนจีเรีย ซึ่งขณะนี้ผู้ติดเชื้อได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยมีอาการคงที่
ขณะที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ได้ทำการติดต่อสายการบิน เพื่อติดต่อไปยังผู้โดยสารที่เดินทางร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อทั้ง 2 เที่ยวบินซึ่งคาดว่ามีความเสี่ยงในการติดเชื้อฝีดาษลิง โดยเที่ยวบินแรกเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ออกเดินทางจากลากอสไปยังแอตแลนตา และเที่ยวบินในวันที่ 9 ก.ค. ที่เดินทางจากแอตแลนตามายังดัลลัส
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ คาดว่าการแพร่เชื้อมีโอกาสเป็นไปได้ต่ำ เนื่องจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่ให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง และตลอดเวลาที่อยู่บนเที่ยวบิน
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ได้อฺบายถึงอาการเมื่อได้รับเชื้อดังกล่าวว่า หลังได้รับเชื้อ2-4 สัปดาห์ ผู้ติดเชื้อจะมีไข้ มีอาการบวมบริเวณต่อมน้ำเหลือ และมีผื่นขึ้นตามลำตัวและใบหน้า โดยมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 1 ใน 100 คน ลอาจมีแนวโน้มสูงขึ้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงจากหลายๆ ประเทศจำนวน 6 คน หลังจากเดินทางกลับมาจากไนจีเรีย ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนไม่มีความเชื่อมโยงกัน
ฝีดาษลิงนั้น พบครั้งแรกในลิงที่นำมาทดลอง และเกี่ยวข้องกับทวีปแอฟริกากลาง และแอฟริกาตะวันตก และมีการระบาดครั้งแรกในสหรํฐฯ เมื่อปี 2546
