วันนี้ (13 ต.ค.64) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พายุโซนร้อนคมปาซุ เคลื่อนตัวอยู่ในทะเลจีนใต้ หลังออกจากฟิลิปปินส์ โดยเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกมุ่งหน้าไปยังภาคใต้ของจีน ซึ่งจะขึ้นฝั่งถล่มมณฑลไห่หนาน ของจีน ช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมทั้งสั่งปิดท่าเรือหลายแห่งล่วงหน้าก่อนพายุเข้า รวมถึงท่าเรือเหยียนเถียนในเมืองเซินเจิ้น
ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาของจีน ออกประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่นระดับสีเหลือง และคาดการณ์ว่า จะเกิดฝนตกหนักหรือลมกระโชกแรงในหลายมณฑลติดชายฝั่งทางใต้ของจีน ได้แก่ มณฑลไห่หนาน ฝูเจี้ยน กว่างตง กว่างซี และเจ้อเจียง
เส้นทางพายุคมปาซุ คาดว่าหลังจากถล่มจีนในวันนี้แล้ว จะอ่อนกำลังลง และออกจากจีนลงสู่อ่าวตังเกี๋ย จากนั้นจะขึ้นฝั่งอีกครั้ง โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน หรือเป็นดีเปรสชัน และขึ้นฝั่งจังหวัดเหงะอาน ของเวียดนามในช่วงสายของวันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.64) หลังจากนั้นจะเคลื่อนไปสลายตัวในนครหลวงเวียงจันทน์ ของ สปป.ลาว ในช่วงเช้าของวันที่ 16 ต.ค.นี้
ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางภาคเหนือของจีน ได้เกิดน้ำท่วมหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุด 32 คน ในมณฑลซานซีและส่านซี โดยผู้เสียชีวิตในจำนวนนี้ 14 คน เป็นผู้โดยสารที่อยู่ในรถบัสที่ถูกน้ำซัดจนตกลงไปในแม่น้ำ จากผู้โดยสารทั้งหมด 51 คน โดยผู้โดยสารที่เหลือได้รับการช่วยออกจากรถบัสอย่างปลอดภัย
