สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เด็กนักเรียนหญิงวัย 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้นของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเขตเหอเจียง ในมณฑลเสฉวน ของจีน ต้องพิการถาวร หลังถูกถูกหัวหน้านักเรียนลงโทษให้ลุกนั่ง 150 ครั้ง จากข้อกล่าวหาแอบนำขนมเข้ามาในหอพักของโรงเรียน
แม่ของเด็กหญิง เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว โดยหัวหน้านักเรียนและครูเข้าไปตรวจในห้องพักของเหริน เพื่อตรวจสอบว่าใครแอบนำขนมเข้าไปมาหอพักโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยพบขนมห่อหนึ่งบนเตียงนอนของเด็กหญิง จึงสั่งให้เธอลุกนั่งเป็นจำนวน 300 ครั้ง แต่เด็กหญิงปฏิเสธว่า ขนมนั้นไม่ได้เป็นของเธอ พร้อมบอกว่าเธอมีอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เนื่องจากเธอลื่นล้มในห้องน้ำในโรงเรียน แต่เธอก็ยังถูกบังคับให้ลุกนั่งถึง 150 ครั้งอยู่ดี โดยที่ครูหลิวอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ก็ไม่ได้มีการห้ามปรามแต่อย่างใด
หลังจากเหตุการณ์นั้น เด็กหญิงต้องเข้ารักษาทางการแพทย์ ในนั้นรวมถึงเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งในเมืองหลูโจวและเมืองเฉิงตู แต่ท้ายที่สุดแล้วแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอทุพพลภาพตลอดชีวิต ต้องใช้ไม้ค้ำตลอดเวลานอกจากอาการบาดเจ็บทางกายแล้ว แพทย์ยังวินิจฉัยว่า เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
ผู้ปกครองของเหรินและทางโรงเรียน ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในข้อพิพาทเกี่ยวกับเงินชดเชยและค่ารักษาพยาบาลที่ตามมา หลังจากเจรจากันมานานกว่า 1 ปี แม้จนถึงตอนนี้ทางโรงเรียนได้ออกเงินค่ารักษาพยาบาลแก่เด็กหญิงไปแล้วรวมกว่า 109,774 หยวน หรือราวประมาณ 570,000บาท ขณะที่ครูซึ่งมีหน้าที่ดูแลพอหัก ถูกไล่ออกไปเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
