ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีและซีเรีย พุ่งทะลุ 15,000 คนแล้ว ขณะที่ ผู้นำตุรกียอมรับรัฐบาลของตนมีปัญหาในการรับมือแผ่นดินไหวครั้งนี้ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล
วันนี้ (9 ก.พ. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปฏิบัติการค้นหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกี และซีเรีย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 เมื่อช่วงเช้ามืดของวันจันทร์ (6 ก.พ. 66) ที่ผ่านมา ในตุรกี บริเวณใกล้กับพรมแดนซีเรีย
ล่าสุด สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตในตุรกีและซีเรียพุ่งทะลุ 15,000 คนแล้ว โดยเป็นผู้เสียชีวิตในตุรกี 12,391 คน และในซีเรีย 2,992 คน ขณะที่ สื่อของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้มีคนไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 298,000 คน ซึ่งทางการได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวถึง 180 แห่ง
ขณะที่ มีการเผยภาพของทีมกู้ภัยจากนครอิสตันบูล ของตุรกี ที่สามารถช่วยเหลือเด็กเล็กคนหนึ่ง จากใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงมาที่จังหวัดฮาทัย ซึ่งเป็น 1 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด ออกมาได้สำเร็จ หลังเด็กคนดังกล่าวติดอยู่ใต้ซากนานเกือบ 68 ชั่วโมง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทีมอื่น ๆ ก็สามารถช่วยผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคารได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยังคงมีหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มอีก
ทางประธานาธิบดีตุรกียอมรับขณะเดินทางลงพื้นที่พบผู้ประสบภัย และสำรวจความเสียหายของพื้นที่เกิดเหตุว่า รัฐบาลของตนมีปัญหาในช่วงเริ่มต้น ในการรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ แต่ระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์อยู่ในความควบคุมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประชาชนจำนวนมากไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล ทั้งเรื่องประชาชนผู้รอดชีวิตถูกทอดทิ้งให้ประสบกับความยากลำบาก และสิ้นเนื้อประดาตัว ตลอดจนความช่วยเหลือของทีมกู้ภัยที่ล่าช้า ซึ่งบางครั้งประชาชนได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากใต้ซากอาคาร แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ เนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์, ความเชี่ยวชาญ และการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่
