นำตัวชายต้องสงสัยชี้เป้าอุ้มชาวจีนรีดเงิน สอบปากคำ

View icon 24
วันที่ 23 มี.ค. 2566 | 04.16 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - คดีตำรวจ ตม. อุ้มรีดชาวจีน มีความคืบหน้าไปพอสมควร เมื่อชุดสืบสวนไปนำตัวชายคนหนึ่งจากจังหวัดชัยภูมิ มาสอบปากคำ หลังพบหลักฐานว่าเป็นนายหน้าพาชาวจีนผู้เสียหายไปทำหนังสือเดินทาง และสงสัยว่าน่าจะเป็นคนชี้เป้าและพาผู้เสียหายไปให้ตำรวจอุ้มไปรีดเงินกว่า 10 ล้านบาท

ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล ไปควบคุมตัวนายโอภาส ซึ่งเป็นนายหน้าที่พาผู้เสียหายชาวจีนไปทำหนังสือเดินทาง จากจังหวัดชัยภูมิ มาสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องกับคดีนี้หรือไม่ และเกี่ยวข้องกับการพาคนจีนไปสวมบัตรประชาชนด้วยหรือเปล่า เพราะจากประวัติพบว่า เมื่อปี 2560 เคยร่วมก่อเหตุอุ้มรีดทรัพย์แบบเดียวกันนี้ในพื้นที่ สน.โคกคราม และ ปี 2565 ถูกดำเนินคดีฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ปลอมบัตรประจำตัวประชาชนฯ

โดย พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งข้อสงสัยว่า วันเกิดเหตุนายหน้าคนนี้ ได้พานักธุรกิจชาวจีนไปทำหนังสือเดินทางที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ และบอกกับผู้เสียหายว่า ไม่สามารถทำหนังสือเดินทางได้ เพราะขาดเอกสารบางส่วน ก่อนจะพาผู้เสียหายและล่ามสาวชาวไทยกลับไปเอาเอกสารที่บ้าน จนเป็นเหตุให้ถูกอุ้มรีดทรัพย์ในที่สุด และยังพบว่ารถยนต์ของนายหน้าคนนี้ มีลักษณะตรงกันกับรถที่ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิด ขณะไปส่งผู้เสียหายที่บ้านก่อนเกิดเหตุอุ้มรีดทรัพย์ แต่มีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งจากการสอบปากคำก็ให้การรับว่า ติดทะเบียนที่ไม่ตรงกับรถจริง และรถยนต์คันนี้ซื้อต่อมาจากเพื่อน ไม่มีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ใด

นอกจากนี้ ตำรวจยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่ใช้มัดตัว 1 ใน 5 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนและล่ามสาวชาวไทย เป็นภาพถ่ายที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กบัญชีหนึ่ง ซึ่งปรากฎภาพดาบตำรวจในแก๊งอุ้มรีดทรัพย์ ส่งมอบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 ปึก ให้กับหญิงสาวที่มีท่าทางใกล้ชิดสนิทกัน โดยหญิงคนนี้ มีรายงานว่าเป็นผู้โพสต์ภาพนี้ในเฟซบุ๊กด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุอุ้มรีดทรัพย์เพียงวันเดียว เหตุเกิดวันที่ 10 ต่อเนื่อง 11 มีนาคม 2566 โดยตำรวจเตรียมจะเชิญตัวหญิงสาวรายนี้มาสอบปากคำ เพื่อขยายผลว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการกระทำความผิดหรือไม่

ส่วนการสอบปากคำ ตำรวจ ตม. ทั้ง 4 นาย ยังคงให้การภาคเสธ รับว่าอยู่ในชุดที่ไปจับกุมชาวจีน แต่ไม่ได้เรียกรับทรัพย์ โดยเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ได้นำตัวร้อยตำรวจโทที่เข้ามอบตัวไปฝากขังต่อศาลฯ แล้ว พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงาน ที่อาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเองในการสร้างโอกาสกระทำผิด ทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม หากปล่อยตัวชั่วคราวอาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน อีกทั้งเป็นคดีร้ายแรง ศาลจึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ส่วนที่เหลืออีก 3 คนจะถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลฯ ในวันนี้  

ขณะที่ผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 1 นาย ยศพันตำรวจตรี ชุดสืบสวนเองก็ปูพรมค้น 3 จังหวัด ซึ่งเป็นบ้านของพันตำรวจตรีนายนี้ และบ้านญาติ คือกรุงเทพฯ นนทบุรี และจันทบุรี แต่ยังไม่พบตัว