ฮือฮา! เจาะบ่อบาดาลเจอ น้ำโซดา ลุ้นเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก

View icon 345
วันที่ 7 เม.ย. 2566 | 16.08 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ฮือฮา! เจาะบ่อบาดาลเจอน้ำโซดา ลุ้นเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก รสชาติจะเป็นอย่างไร ไปดู

เอร็ดอร่อยกันใหญ่เลย ทั้ง รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาเชิงคีรี ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึง ช่างติดตั้งปั๊มน้ำ ต่างพากันมาร่วมพิสูจน์ ดื่มน้ำที่ขุดขึ้นมาจาก การเจาะบ่อบาดาลหลังบ้าน เลขที่ 146 หมู่ 7 ตำบลนาเชิงคีรี อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย ของพันโท คะเนตร รักวุ่น อายุ 62 ปี ข้าราชการบำนาญ

เมื่อชาวบ้านชิมแล้ว ต่างพูดเหมือน ๆ กันว่า น้ำมีรสชาติคล้าย "โซดา" ซ่าติดลิ้น ไร้กลิ่น ยิ่งถ้าน้ำที่ไหลออกมาเป็นสีขุ่น ก็จะยิ่งซ่ามาก ที่สำคัญ คือ ไม่มีกลิ่นสนิม หรือ กลิ่นโคลน สามารถดื่มกินกันอย่างสบาย ๆ จนชาวบ้านสงสัยว่า อาจจะเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก เหมือนกับที่พบในพื้นที่ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2564 หรือไม่

พันโท คะเนตร เจ้าของบ้าน (เสื้อสีแดง) บอกว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน ได้ว่าจ้างช่างให้มาขุดเจาะบ่อบาดาล ตรงทุ่งนาติดกับสวนผลไม้หลังบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากประปาหมู่บ้าน แค่ 200 เมตร โดยขุดเจาะลึกลงไป 70 เมตร ก็เจอน้ำพุ่งขึ้นมา แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าน้ำมีรสชาติคล้ายโซดา กระทั่งได้จ้างช่างมาติดตั้งปั๊มน้ำโซลาเซลล์ แล้วพวกช่างได้ลองดื่มน้ำจากบ่อที่เพิ่งขุดเจาะ จึงรู้ว่ามีรสชาติแปลก แต่ที่รู้สึกแปลกไป เห็นจะเป็นพวกต้นไม้ ใบหญ้า เพราะเมื่อนำน้ำดังกล่าวไปรด กลับมีสีเขียวเข้มมากกว่าปกติ เหมือนกับว่า ในน้ำมีแร่ธาตุไปบำรุงต้นไม้

ส่วนตอนนี้ชาวบ้านก็พากันตื่นเต้นและดีใจ พร้อมแอบลุ้นกันว่า น้ำที่เจอ อาจจะเป็นน้ำแร่คุณภาพเทียบระดับโลก ราคาขวดละ 3,000 บาท เหมือนกับที่เจอในพื้นที่ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาพิสูจน์ตรวจสอบโดยเร็ว ว่าแท้จริงคืออะไร มีสารปนเปื้อน เป็นพิษหรือไม่ ให้หายข้องใจไปที

"อ.เจษฎา" วิเคราะห์น้ำบาดาลโซดา
ขณะที่ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นบางช่วงว่า เรื่องนี้สำคัญมาก เพราะควรเช็กให้ชัวร์ว่า ไม่มีสารอันตรายปนเปื้อนอยู่ ยิ่งอยู่แถวพื้นที่การเกษตร ต้องระวังสารเคมีตกค้าง แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าน่าสนใจมาก และน่าจะเทียบเคียงได้กับการพบ "น้ำพุโซดา" พื้นที่ห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี 2564

ครั้งนั้นมีการอธิบายของอาจารย์ ณรงค์ศักดิ์ แก้วดำ อาจารย์ประจำสาขาวิชาธรณีศาสตร์ วิทยาเขตกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อธิบายไว้อย่างชัดเจน ฉะนั้นอาจเป็นไปได้ว่า น้ำบาดาลโซดาที่สุโขทัย อาจไหลผ่านชั้นหินปูน ที่มีองค์ประกอบ เป็นสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) แล้วเกิดปฏิกิริยาคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกมา และสะสมอยู่ในน้ำบาดาล ทำให้มีความซ่าคล้ายโซดา ถ้าเอาทิ้งไว้ จะลดความซ่าลงไป

ส่วนจะนำไปใช้เป็น "น้ำแร่" สำหรับดื่มบริโภคได้หรือไม่ คงต้องขึ้นกับผลการวิเคราะห์ถึงปริมาณแร่ธาตุและสารปนเปื้อนต่าง ๆ ในนั้น ถ้าเกิดมีสารเคมีที่เป็นอันตรายปนเปื้อนอยู่ เพราะอยู่ในพื้นที่การเกษตรด้วย ก็ไม่ควรนำมาบริโภคเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง