เจาะประเด็นข่าว 7HD - ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดประเด็นช่วงวันหยุด โพสต์คลิปถาม ทนายตั้ม มีอะไรดี ถึงต้องมีตำรวจแบกกระเป๋า เจ้าหน้าที่เข้าแถวต้อนรับ ขณะที่ทนายตั้มเข้าไปโพสต์ตอบทันควัน ตำรวจช่วยถือกระเป๋าตามประสาคนมี Service Mind จวกไม่แมน ไปดูดคลิปลูกความมาลง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์คลิปวิดีโอ ความยาว 20 วินาที ปรากฏเป็นภาพของหญิงสาวกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หรือ ทนายตั้ม ซึ่งทั้งสองอยู่ในสนามบิน โดยมีภาพเจ้าหน้าที่ภายสนามบินยืนไหว้ต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นก็เป็นภาพตำรวจท่องเที่ยว 2 นาย เข้าไปช่วยเหลือลากกระเป๋าเดินทางไปยังจุดตรวจ และสุดท้าย ทนายตั้ม เข้ามาเซลฟีโบกมือและสวมกอด
โดย นายชูวิทย์ ฝากถามว่า ทนายตั้ม มีอะไรดีถึงต้องมีตำรวจมาช่วยแบกกระเป๋า เจ้าหน้าที่เข้าแถวต้อนรับ ถ้าเส้นไม่ใหญ่จริงทำไม่ได้ ทนายตั้ม เขาเส้นกวยจั๊บ
หลังจากคลิปและข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า ทนายตั้ม เข้ามาโพสต์ตอบโต้ในช่องคอมเมนต์ในโพสต์ของนายชูวิทย์ทันที ข้อความว่า "สวัสดีครับพี่ชูวิทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ขอบคุณที่ตามติดชีวิตผมนะครับ แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปลูกความผม ที่กำลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ แล้วอัดคลิปมาลง เพราะมีความสุข โดยไม่สนความจริงว่า ตำรวจที่มาช่วยยกของก็คือเดินสวนกันแล้วเขาจำหน้าได้ก็เลยมาทักทาย เห็นพี่ลูกความกระเป๋าหนัก ก็เลยช่วยถือ ตามประสาคนมี Service Mind ที่ดี ไม่พอใจผม เกลียดผม โจมตีผม ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ เข้าใจได้ คนมีประเด็นกัน แต่ถึงขั้นไปดูดคลิปคนไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาลงเพจ คนติดตามเป็นล้าน ผมว่ามันไม่แมน หรือนี่คือสิ่งที่สุดยอดมหาโจรเขาทำกัน"
หากใครลืมไปแล้วว่าทั้ง 2 คนเขามีประเด็นอะไรกัน ต้องย้อนไปที่หลังจากที่ นายชูวิทย์ ไปเปิดประเด็นเรื่องพนันออนไลน์และกัญชาอย่างต่อเนื่อง จู่ ๆ ทนายตั้ม ก็โพสต์ภาพถุงกระดาษใส่เงิน ต่อมาก็ระบุว่ามีตำรวจและตัวแทนเจ้าของบ่อนเอาเงินไปให้ เพื่อปิดปากเรื่องที่ออกมาแฉก่อนหน้านี้ จากนั้นทั้งคู่ก็เปิดประเด็นในเรื่องส่วนตัวมาโดยตลอด
เรื่องที่เกิดขึ้นที่สนามบิน เราสอบถามไปยังตำรวจท่องเที่ยว ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อภิสิทธิ์ชนหรือไม่ พลตำรวจตรี อภิชาติ สุริบุญญา โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า คลิปดังกล่าวเป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นไม่เกิน 2 ปี ซึ่งก็ไม่ได้ปฏิเสธถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจท่องเที่ยวไปอำนวยความสะดวกให้จริง แต่โดยปกติแล้วภารกิจของตำรวจท่องเที่ยวในท่าอากาศยานนั้น นอกจากดูแลความปลอดภัยแล้ว ยังต้องคอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและต่างชาติ ในการเดินทางขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายครั้งหลายคราวที่นักท่องเที่ยวเกือบจะตกเครื่อง ก็มักจะไปขอความช่วยเหลือ และขอคำแนะนำกับตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวก็จะช่วยยกกระเป๋าสัมภาระไปบริเวณจุดเช็กอินน์ขึ้นเครื่องเพื่อให้ทันเวลา ซึ่งมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ
แต่สำหรับกรณีของนายษิทรานั้น อาจเป็นไปได้ว่าด้วยความที่เป็นคนดัง ตำรวจจึงเข้าไปสอบถามให้ความช่วยเหลือในการขนกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วว่า เป็นการอำนวยความสะดวกตามคำสั่งของผู้ใหญ่หรือไม่ หรือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวตามปกติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดความชัดเจน
