เลือกตั้ง 2566 : เปิด 3 นโยบาย 6 พรรคการเมือง ใช้เงินมหาศาล

View icon 74
วันที่ 3 พ.ค. 2566 | 07.13 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ใกล้โค้งสุดท้ายเข้าไปทุกที นโยบายพรรคการเมืองที่มีการหาเสียงกันมาก ก็ยังมุ่งที่การให้สิทธิประโยชน์ด้านต่าง ๆ กับประชาชนเพิ่มขึ้น ล่าสุด TDRI เปิดข้อมูลการใช้เงินใน 3 นโยบายของ 6 พรรคการเมือง เรียกว่าถ้าทำครบทั้งหมดโดยที่นโยบายไม่ซ้ำกัน ต้องใช้เงินมากกว่า 3 ล้านล้านบาท

โดยพรรคการเมืองที่ใช้เงินมากที่สุดใน 3 นโยบาย คือ ภูมิใจไทย รวมกว่า 1.8 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ วงเงิน 1.7 ล้านล้านบาท ภาษีบ้านเกิดเมืองนอน 101,334 ล้านบาท และกองทุนประกันชีวิตผู้สูงอายุ ตายได้ 100,000 บาท กู้ได้ 20,000 บาท เป็นเงิน 37,098 ล้านบาท

รองลงมาคือ พรรคเพื่อไทย ใช้เงินกว่า 1.7 ล้านล้านบาท เฉพาะเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ปาเข้าไป 5.6 แสนล้านบาทแล้ว การจัดการนำอีกกว่า 500,000 ล้านบาท และสวัสดิการผู้สูงอายุอีก 300,000 ล้านบาท

ส่วน พรรคก้าวไกล ตามมาเป็นอันดับ 3 ใช้เงินกว่า 1.2 ล้านล้านบาท กับนโยบายเงินเดือนผู้สูงอายุ 3,000 บาทต่อเดือน เป็นเงิน 500,000 ล้านบาท เพิ่มเงินอุดหนุน อปท. 200,000 ล้านบาท และสวัสดิการทุกช่วงวัย อีก 98,500 ล้านบาท

อันดับ 4 คือ พรรคพลังประชารัฐ ใช้งบเฉียดล้านล้านบาท กับนโยบายเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน เป็นเงินกว่า 4.9 แสนล้านบาท แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ กว่า 1.7 แสนล้านบาท และบัตรประชารัฐ 700 บาท + ประกันชีวิต กว่า 1.2 แสนล้านบาท

อันดับ 5 คือ พรรคประชาธิปัตย์ ใช้เงินมากกว่า 6.8 แสนล้านบาท กับนโยบาย Startup และ SME ต้องมีแต้มต่อ 300,000 ล้านบาท ธนาคารหมู่บ้าน แห่งละ 2 ล้านบาท รวมเป็น 1.6 แสนล้านบาท และชาวนารับ 30,000 บาทต่อครัวเรือน อีก 97,000 ล้านบาท

อันดับ 6 คือ รวมไทยสร้างชาติ 250,000 ล้านบาท กับนโยบายบัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือน เป็นเงิน 71,000 ล้านบาท คนละครึ่งภาค 2 40,000 ล้านบาท และเบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาทต่อเดือน อีก 40,000 ล้านบาท

เรียกว่าถ้าทำทุกนโยบายที่ไม่ซ้ำกันก็ต้องใช้เงินมากกว่า 3 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว

เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย ได้ที่ www.ch7.com/election2566

ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/@ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd