ขุดพบโครงกระดูกที่คาดว่าเป็นชาวเมือง 2 คน ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดและถล่มเมืองปอมเปอี เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน จนทำให้ทุกอย่างภายในเมืองกลายเป็นเถ้าถ่าน
วันนี้ (22 พ.ค. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักโบราณคดีประจำแหล่งโบราณคดีปอมเปอี (Pompeii) ของอิตาลี ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 2 ร่าง ที่คาดว่า เป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดและถล่มเมืองปอมเปอี จนราบเป็นหน้ากลอง เมื่อ 24 สิงหาคม ค.ศ. 79
โดยผู้อำนวยการแหล่งโบราณคดีแห่งนี้เปิดเผยว่า เจ้าของโครงกระดูกที่พบมิได้เสียชีวิตเพราะเถ้าภูเขาไฟ แต่กลับคาดว่าเสียชีวิตจากการถูกซากอาคารที่เสียหายในเวลานั้นทับลงมา เนื่องจากพบรอยร้าวหลายจุดที่โครงกระดูก ซึ่งถือว่าการค้นพบครั้งนี้ทำให้นักโบราณคดีต้องกลับมารื้อเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ใหม่ ไม่เพียงแต่การศึกษาจากตำราแต่จะต้องมีการขุดหาทุกสิ่งที่ยังคงรอการค้นพบอยู่ด้านล่างซากเมืองที่พังทลายนี้อีกมาก
ทั้งนี้ แหล่งโบราณคดีปอมเปอี เคยถูกยกเลิกสำรวจไปหลายปี ก่อนจะกลับมาศึกษาอีกครั้งเมื่อราวศตวรรษที่ 16 และได้รับการงบสนับสนุนจากสหภาพยุโรปกว่า 105 ล้านยูโร หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งความเสียหายจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ปอมเปอี ทำให้ประชากรของเมืองอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เสียชีวิต แต่นักโบราณคดีค้นพบร่างผู้เสียชีวิตได้เพียง 1,300 คนเท่านั้น ตลอด 250 ปีผ่านมา ซึ่งผู้คนในเมืองบ้างก็เสียชีวิตจากถูกไฟคลอกขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ ขณะที่บางคนก็สำลักควันพิษและขาดอากาศหายใจ