ยังไม่ชัด ผับห้วยขวาง เชื่อมโยงคดีผับจินหลิง

View icon 36
วันที่ 3 มิ.ย. 2566 | 04.14 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ทั้งข้อมูลตำรวจ พนักงานของผับ และนายชูวิทย์ ค่อนข้างตรงกันว่า "ผับไดมอนด์" ย่านห้วยขวาง ที่พบมีกลุ่มนักเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติด เปิดให้บริการมาได้เพียง 1 เดือน มีคนที่พูดภาษาจีนได้ทำงานอยู่ที่นี่ ส่วนที่ต่างกันคือ เรื่องการขยายผลไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง

พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1, แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ และตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร ไปตรวจสอบ ผับ "ไดมอนด์ เคทีวี" ซึ่งอยู่ใน "เมรี อาบ อบ นวด" ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

หลังจากที่ ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ กก.ดส. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. บุกเข้าตรวจค้น พบนักเที่ยวชาวจีน 48 คน กำลังมั่วสุมเสพยาเสพติดในห้องคาราโอเกะส่วนตัว พบยาเสพติดหลายประเภท โดยระหว่างการตรวจค้น ก็ไปพบรถยนต์คันหนึ่งของกลุ่มนักเที่ยว ภายในมียาเสพติดทุกประเภทและอุปกรณ์การเสพ เบื้องต้นสอบสวนนักเที่ยวเจ้าของรถ อ้างว่ามาเที่ยวได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ยังไม่ขอให้การเรื่องยาเสพติดที่ตรวจพบ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสซักถามกับ เจ้าหน้าที่บัญชีของผับดังกล่าว ซึ่งก็อธิบายให้ฟังว่า ผับแห่งนี้เปิดให้บริการได้เพียงเดือนกว่า ๆ พนักงานส่วนใหญ่มาจากเชียงใหม่ หรือเชียงราย พูดภาษาจีนได้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ 80% เป็นคนจีน ส่วนยาเสพติด ลูกค้าเป็นคนนำมาเอง ทางร้านไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ยังช่วยสอบถามกลุ่มนักเที่ยว ส่วนใหญ่บอกว่ามาเที่ยวเป็นครั้งแรก ขณะที่ พลตำรวจตรี อัฏธพร เปิดเผยว่า จากการขยายผลตรวจสอบ เบื้องต้นพบข้อมูลว่าเปิดให้บริการได้ประมาณ 1 เดือน เอกสารระบุเจ้าของร้านเป็นคนไทย ยังไม่พบในร้านมีการรับฝากยาเสพติดเหมือนในคดี "ผับจินหลิง" แต่พบยาเสพติดอยู่ในรถของกลุ่มนักเที่ยว ส่วนผลการตรวจปัสสาวะชาวจีนทั้ง 48 คน พบว่า 32 คน แสดงผลปัสสาวะเป็นสีม่วง ส่วนผลการตรวจเลือดคาดว่าจะทราบวันพรุ่งนี้

ด้าน นายไพฑูรย์ งามมุข ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง เปิดเผยว่า จะพิจารณาสั่งปิดอาคารดังกล่าว พร้อมกับยกเลิกใบอนุญาตสถานอาบอบนวด "เมรี" ในฐานะผู้ให้เช่าสถานที่ เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากพบว่าเข้าข่ายความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 22 เรื่องเกี่ยวกับการปล่อยปละละเลยให้นำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ โดยจะนำคำสั่งมาปิดประกาศเที่ยงวันนี้ พร้อมกันนี้จะพิจารณาเรื่องความผิดเกี่ยวกับการต่อเติมโครงสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

สำหรับนักเที่ยวทั้งหมด ตำรวจได้ควบคุมตัวแยกไปไว้ที่สถานีตำรวจ 3 แห่ง ได้แก่ สน.ดินแดง, สน.มักกะสัน และห้วยขวาง เพื่อรอสอบสวนขยายผลความผิดตามกฎหมาย รวมถึงข้อสงสัยความเชื่อมโยงกับคดีผับจินหลิง ที่ทางตำรวจยอมรับว่ายังไม่มีความชัดเจน

ด้าน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองที่เคยออกมาเปิดโปงเบื้องหลัง "ผับจินหลิง" เมื่อวานก็ได้แถลงข่าวแฉผับดังกล่าว ระบุว่า ผับแห่งนี้มีกลุ่มทุนสีเทาอยู่เบื้องหลัง ไม่ต่างกับคดี "ผับจินหลิง" มีตัวละครสำคัญชื่อ "อาจ๋าย" เป็นคนสัญชาติจีนที่พูดภาษาไทยได้เป็นเจ้าของ มี "ชายเล็ก" สัญชาติจีน เป็นนายหน้าคอยประสานงาน โดยกลุ่มคนเหล่านี้เป็น "ชาวจีนใหม่" เป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ เข้ามาทำธุรกิจสีเทาในไทยหลายอย่าง เช่น แก๊งอุ้มบุญ, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, เว็บฯ พนันออนไลน์ รวมไปถึงก่อเหตุอุ้มคนจีนเรียกค่าไถ่ ส่วนสาเหตุที่ถูกตรวจค้น เพราะว่าเคลียร์เรื่องส่วยกันไม่ลงตัว มีการยักยอกเงินกันเกิดขึ้น

ส่วนที่เลือกก่อเหตุในเมืองไทย เพราะขายแพ็กเกจง่าย มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม อาหารอร่อย ที่สำคัญสามารถจ่ายส่วยเพื่อเคลียร์เจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งคนที่ทำเรื่องนี้ให้ "อาจ๋าย" มีชื่อว่า "บังมัด" เป็นคนมุสลิม เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ คอยติดต่อเจรจากับ "รองผู้กำกับการ" คนหนึ่งอักษรย่อ "ห." ที่จะคอยไปเจรจากับตำรวจหน่วยงานต่าง ๆ อีกทอดหนึ่ง มีทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบังคับการปราบปราม, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวมถึงกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ที่เป็นหน่วยเข้าจับกุม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง