ลุ้น กกต.รับรอง สส. สัปดาห์นี้ เดินหน้าเลือก ปธ.สภาฯ-นายกฯ-ตั้ง ครม.

สนามข่าว 7 สี - สัปดาห์นี้ต้องลุ้นว่า กกต. จะรับรองผล สส. ทั้ง 2 ระบบวันไหน โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะรับรองทั้ง 500 คน ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ ขณะที่ โฆษกพรรคก้าวไกล ยังยืนยัน ตำแหน่งประธานสภาฯ ต้องเป็นของก้าวไกล ส่วน พรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะยอมแล้วแลกกับตำแหน่งรองประธานสภาฯ 2 คน

ลุ้น กกต.รับรอง สส. สัปดาห์นี้ เดินหน้าเลือก ปธ.สภาฯ-นายกฯ-ตั้ง ครม.
สาเหตุที่คาดการณ์กันว่า การรับรอง สส. ทั้ง 2 ระบบ อาจทำแบบ 100 % ไม่ใช่ 95 % ตามที่กฎหมายกำหนดให้รับรองก่อน เนื่องจากแม้มีว่าที่ สส. รวม 71 คน ยังถูกร้องคัดค้าน แต่ตามกรอบเวลาที่มี ผู้ปฏิบัติงานแจ้งว่าไม่น่าจะพิจารณาได้ทัน จึงน่าจะมีการรับรองไปก่อน แล้วหากพบว่ามีปัญหาค่อยไปสอยทีหลัง โดย กกต. ชงเรื่องให้ศาลฎีกาฯเป็นผู้ชี้ขาด

ส่วนกรอบเวลารับรอง สส. ที่คาดว่า น่าจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ มาจากปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักบริหารการเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติ มีหนังสือด่วน ถึงผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอใช้สถานที่ สำหรับการแจกหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น สส. โดยขอใช้ห้องประชุม ในระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายนนี้ และขออนุเคราะห์ให้จัดโต๊ะสำหรับการแจกหนังสือรับรองเป็น 7 โต๊ะ แบ่งเป็นรายภาค และโต๊ะสำหรับบัญชีรายชื่อ หนังสือมาแบบนี้ก็มีการคาดการณ์กันเลยว่า ให้เตรียมกันตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ก็เลยทำให้คาดการณ์กันไปว่า การประกาศรับรอง สส. น่าจะเกิดวันนี้ หรือไม่ก็พรุ่งนี้

ลงตัว ก้าวไกล นั่งเก้าอี้ ประธานสภาฯ เพื่อไทย คว้า 2 เก้าอี้รองประธาน
เมื่อการประกาศรับรอง สส. มีความชัดเจนมากขึ้น ก็เริ่มมีการตั้งคำถามว่า ปัญหาเรื่องตำแหน่งประธานรัฐสภา ระหว่าง พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ได้ข้อยุติหรือยัง ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ระหว่างเจรจา โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงว่าจะกลายเป็นการกระพือความขัดแย้งระหว่างสองพรรค

แต่ก็มีความเห็นจาก นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ตำแหน่งประธานรัฐสภา ต้องเป็นของก้าวไกลเท่านั้น และมั่นใจไม่ทำให้เกิดปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกเพื่อให้ได้ข้อยุติ และไม่เกิดปัญหากับทั้งสองพรรค พรรคเพื่อไทย จึงมีจุดยืนและข้อสรุป เห็นชอบในหลักการพรรคอันดับ 1 จะทำหน้าที่ประธานสภาฯ และเนื่องจากพรรคอันดับ 1 และ 2 มีจำนวนเสียงใกล้เคียงกัน ดังนั้นตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 คน จึงควรเป็นพรรคอันดับ 2 ทั้งนี้จะต้องรอ กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน 2 พรรค จึงจะหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป

แต่ นายอดิศร เพียงเกษ ว่าที่ สส.พรรคเพื่อไทย ไม่พอใจกับท่าทีของพรรค ที่ยกเก้าอี้ประธานสภาฯ ให้พรรคก้าวไกล เขาบอกควรโหวตกันในสภาฯ เพราะเสียงก้ำกึ่งกันควรกินแบ่ง ไม่ใช่กินรวบ

ขณะที่ 8 พรรค ที่ประกาศจับมือตั้งรัฐบาล เลื่อนการประชุม จากเดิมกำหนดวันที่ 20 มิถุนายน ที่พรรคเพื่อไทย ไปเป็นวันที่ 22 มิถุนายน แทน เพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนว่า ตกลงแล้วแต่ละพรรคได้ สส. มาเท่าไหร่กันแน่ ซึ่งขั้นตอนหลังรับทราบจำนวน สส. ของแต่ละพรรคที่แน่ชัด ก็จะต้องตกลงกันเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน เนื่องจากจะเป็นขั้นตอนแรก

เมื่อได้ ประธานสภาฯ ซึ่งทำหน้าที่ประธานรัฐสภาด้วย ก็จะไปถึงขึ้นตอนนัดวันประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี จากนั้นก็เริ่มต้นนับหนึ่ง ครม. ใหม่กันได้ ซึ่งหากพิจารณาจากปี 2562 ขั้นตอนทั้งหมดที่กล่าวมา ใช้เวลาราว 2 เดือน

สำหรับการไทม์ไลน์การเมืองในครั้งนี้ หากมีการรับรองผล สส. ภายในสัปดาห์นี้จริง ก็มีความเป็นไปได้ที่กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่เลือกประธานสภาฯ เลือกนายกฯ ไปจนถึงการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ได้ ครม.ชุดใหม่ ก็น่าจะจบได้ในเดือนกรกฎาคม ในกรณีที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอุบัติเหตุการเมืองใด ๆ เกิดขึ้น

และจากที่ยังมีความไม่แน่นอนหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นในทางการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าจะได้คะแนนเสียงสนับสนุนถึง 376 เสียงหรือไม่ รวมถึงคดีการเมืองที่จะเกิดขึ้นตามมา หลังได้รับการรับรอง สส. จากกรณีถูกกล่าวหาว่าถือหุ้นสื่อ ซึ่งจะนำไปสู่การยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พ้นสภาพความเป็น สส. ก็เลยทำให้มีความกังวลว่า หากเกิดอะไรกับ นายพิธา ที่ทำให้ไม่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะมีการเมืองนอกสภาเกิดขึ้นหรือไม่