สาวช้ำ! แม่สิ้นใจต่อหน้า เพราะ หมอไม่ให้ย้ายรพ. นอนปวดท้องทรมาน กว่า 40 ชั่วโมง

View icon 489
วันที่ 26 มิ.ย. 2566 | 16.08 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สาวช้ำ! แม่ซี่โครงหัก ปวดท้องทรมาน กว่า 40 ชั่วโมงระหว่างที่นอนอยู่ภายในโรงพยาบาล ขอทำเรื่องส่งย้ายไปอีกโรงพยาบาลกลับไม่ได้ สุดท้ายแม่สิ้นใจต่อหน้า

นางสาวนัญชิดา ชมชัยภูมิ อายุ 39 ปี  นำเอกสารการเสียชีวิตของคุณแม่ อายุ 58 ปี จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง นำออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู โดยในเอกสาร ระบุ การเสียชีวิต ว่า "กระดูกซี่โครงหัก จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์" พร้อมระบุเวลา 02.46 น. วันที่ 10 มิถุนายน ซึ่งข้อชี้แจ้งดังกล่าว สร้างความสงสัย และ ความกังวลให้กับลูกสาวเป็นอย่างมาก

โดยเธอเล่าว่า ช่วงเช้า (07.00 น.) ของวันที่ 8 มิถุนายน แม่ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อไปทำงานในตัวเมืองสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ระหว่างเกิดอุบัติเหตุรถล้ม จากนั้นกู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาล โดยแม่มีอาการปวดช่องท้อง พอเอาตัวไปเอกซเรย์ พบว่ากระดูกซี่โครงด้านขวาหัก 3  ซี่ ไหปลาร้าขวาหัก หลังจากนั้นหมอมาดูอาการเป็นระยะ แต่แม่อาการไม่ดีขึ้นเลย

จากนั้น ช่วงบ่าย จึงขอให้หมอทำเรื่องย้ายตัว ไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง กลับได้รับคำตอบ ว่า "แม่ไม่เป็นอะไรมาก ทางโรงพยาบาลรักษาได้" จนกระทั่งตกดึก แม่อาการไม่ดีขึ้น จึงขอให้ทำเรื่องย้ายอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบว่า "เวลานี้หมอไม่ทำงาน ต้องรอวันถัดไป"

ตอนนั้น นางสาวนัญชิดา บอกว่า ตนเองใจจะขาดแล้ว เพราะ ต้องนอนฟัง เสียงแม่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ทรมาน ตลอดทั้งคืน พอวันรุ่งขึ้น ( 9 มิ.ย.) หมอเอายามาฉีด เพื่อให้บรรเทาอาการปวด แต่ผ่านไปซัก 3-4 ชั่วโมง แม่ก็กลับมาปวดอีก แต่ครั้งนี้หายใจไม่ออก จนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และยิ่งพยายามขอย้ายแม่ไปรักษาตัวที่อื่น ก็ถูกปฏิเสธทุกครั้ง รวมแล้วถึง 4 ครั้ง จนกระทั่ง เวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 10 มิถุนายน แม่เกิดอาการตาค้าง และพยายามดึงสายออกซิเจนออก ก่อนสุดท้ายนอนแน่นิ่งไป โดยหมอก็พยายามปั๊มหัวใจอยู่นาน แต่ไม่เป็นผล

หลังคุณแม่เสียชีวิต ทางโรงพยาบาล กลับแจ้งว่า "เราเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอในการรักษา" ก่อนมอบพวงหรีดให้ 1 พวง และ เงินช่วยงานอีก 1,000 บาท ส่วนเรื่องเงินเยียวยาโรงพยาบาลแจ้งว่า ให้ไปเบิกประกันสังคมเอา จึงรู้สึกว่า ไม่ได้รับเป็นธรรมอยากมาก

สธ.ยอมรับ รพ.พลาดทำผู้ป่วยเสียชีวิต จ.บุรีรัมย์
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จากการสอบถามข้อมูลจากโรงพยาบาลดังกล่าว (แคนดง) ทราบว่า ญาติได้ร้องขอให้ย้ายจริง แต่จากการวิเคราะห์ของแพทย์แล้ว ไม่มีอาการหนัก แต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้ โดยหลังจากนี้จะกำชับให้โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด ตรวจสอบและวิเคราะห์ให้ละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้ โดยเฉพาะการส่งต่อผู้ป่วย จะได้ไม่เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก ส่วนเรื่องการเยียวยา เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในระบบประกันสังคม จึงกำชับให้โรงพยาบาลดูแลเรื่องเอกสาร เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหาย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นางสาวนัญชิดา ลูกสาวผู้เสียชีวิต อีกครั้ง หลังสาธารณสุขให้ไปใช้ระบบประกันสังคม แทนการเยียวยาของ กระทรวงสาธารณสุข นางสาวนัญชิดา กล่าวว่า จริงแล้ว ระบบประกันสังคมเป็นการออมเงินของแรงงาน เป็นสิทธิ์พึงมีพึงได้ของผู้เอาประกันตน ส่วนกรณีที่ตนออกมาร้องนั้น เพราะต้องการให้กระทรวงสาธารณสุขออกมารับผิดชอบกับการบริหารจัดการที่ผิดพลาดมากกว่า เพราะมันเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งการทำลักษณะนี้มัน "ไม่ถูกต้อง" .

ข่าวที่เกี่ยวข้อง