สั่งย้าย 4 เสือ สภ.มูโนะ เหตุโกดังประทัดระเบิด จ.นราธิวาส

View icon 107
วันที่ 2 ส.ค. 2566 | 07.08 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - พนักงานสอบสวนเตรียมขอหมายจับเจ้าของโกดังเก็บประทัดระเบิด หลังนัดหมาย 2 ครั้ง แล้วไม่เข้าตามหมายเรียก แต่ต้องจับตาวันนี้ อาจจะเข้าพบ รอง ผบ.ตร. ที่ลงพื้นที่ไปติดตามเร่งรัดการดำเนินคดี ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่ว่าใครเกี่ยวข้องเหตุที่เกิดขึ้นต้องรับผิดชอบ

ความคืบหน้าเหตุโกดังเก็บประทัด และดอกไม้เพลิง ระเบิด กลางตลาดตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส วานนี้ หลังชาวบ้านสำรวจความเสียหายในบ้าน ก็นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สภ.มูโนะ ซึ่งพนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานแล้วเกือบ 200 ปาก คาดว่าคดีนี้จะสอบปากคำพยานกว่า 400 ปาก

ส่วน นายสมปอง และ นางสาวปิยะนุช เจ้าของโกดัง ที่ถูกออกหมายเรียก และนัดเข้าให้ปากคำ ตลอดทั้งวัน ทั้ง 2 คน ยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้ พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ

ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่าในวันนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ไปติดตามเร่งรัดคดี รวมถึงส่งทีมชุดสืบสวนคลี่คลายปมต้องสงสัยของสังคม เกี่ยวกับการเพิกเฉยของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ และประเด็นเรื่องการจ่ายส่วยให้ตำรวจในพื้นที่ครึ่งแสนต่อเดือน แลกกับลักลอบตั้งโกดังเก็บพลุกลางชุมชน จนกลายเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรม ซึ่งนายสมปอง กับ นางสาวปิยะนุช เจ้าของโกดัง อาจจะเข้าให้ปากคำต่อ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์

ด้าน พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พลตำรวจตรี อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งย้ายข้าราชการตำรวจ สภ.มูโน๊ะ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย ผู้กำกับการ, รองผู้กำกับการปราบปราม, สารวัตรปราบปราม และสารวัตรสืบสวน ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ส่วนตำรวจรองผู้กำกับการสืบสวน เสียชีวิตไปแล้ว จึงเป็นตำแหน่งว่าง

ส่วนเส้นทางขนประทัดข้ามชาติ ก่อนหน้านี้ มีจุดเริ่มต้นจากจีน ลำเลียงมายัง สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขง เข้าไทยที่จังหวัดเชียงราย และหนองคาย อีกเส้นทางมาทางเรือ จากจีน ขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง

จากนั้นก็ลำเลียงลงใต้ ถึงจังหวัดสงขลา บางส่วนก็จะถูกนำไปพักไว้ที่โกดังในพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ก่อนลักลอบข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย ผ่านช่องทางธรรมชาติ ที่หลักเขตแดนที่ 28

อีกส่วนหนึ่งนำไปจังหวัดนราธิวาส ซุกซ่อนไว้ในโกดัง ในตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก และโกดังในอำเภอตากใบ ก่อนส่งต่อไปประเทศมาเลเซีย แต่ระยะหลังขบวนการนี้ลำเลียงนำไปพักไว้ที่โกดัง พื้นที่อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา โดยบริเวณโกดังมี 2 บริษัท มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่

สำหรับเจ้าของโกดังที่เกิดเหตุระเบิด แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ทำธุรกิจนี้มานาน เคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 2559 และรายนี้แตกต่างจากอีกหลายรายที่เลิกกิจการ เพราะแพ้อำนาจและผู้มีอิทธิพล แสดงให้เห็นว่าเจ้าของโกดังรายนี้ มีบารมี เคลียร์ได้ทุกฝ่าย

นอกจากนี้คาดว่ายังมีการเคลียร์เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน และอาจมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง เพราะการจับกุมครั้งก่อนไปเป็นพยาน แต่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมถูกสั่งให้ปล่อยและให้ดูแลผู้ต้องหารายนี้ ทั้งนี้ธุรกิจดอกไม้ไฟมีกำไรมหาศาล คาดกันว่ากำไรมากกว่าค้ายาเสพติด

ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ไปเยี่ยมผู้ประสบภัยและให้กำลังพร้อมมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 9 ราย

ก่อนไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยตรวจสอบแผนผังพื้นที่ เพื่อวางแผนช่วยเหลือชาวบ้านที่บ้านพังเสียหายทั้งหลัง โดยกระทรวงมหาดไทยสั่งการให้กรมที่ดิน และกรมโยธาธิการและผังเมือง สำรวจพื้นที่อย่างละเอียด ก่อนวางแผนจัดรูปที่ดิน ยกพื้นที่ให้สูงขึ้น วางผัง และระบบสาธารณูปโภคใหม่ทั้งหมด เนื่องจากฤดูน้ำหลากจะถูกน้ำแม่น้ำโกลก เอ่อท่วมสูงทุกปี จึงต้องแก้ไขปัญหาในคราวเดียวกัน

ส่วนการซ่อมแซมบ้าน หรือ สร้างบ้านใหม่ ยอมรับงบประมาณหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะช่วยเหลือตามระเบียบราชการไม่เพียงพอ จึงต้องหาช่องทาง โดยกำลังพิจารณาช่องทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งการหาบ้านให้ผู้เดือดร้อนได้พักอาศัยชั่วคราว แทนการไปอาศัยตามบ้านญาติ ส่วนการสอบสวนหากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนี้ สั่งการให้อธิบดีกรมการปกครอง แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สำรวจพื้นที่ว่ามีโกดัง หรือ สถานที่ลักลอบเก็บประทัด พลุ ดอกไม้เพลิง หรือไม่ และได้ขออนุญาตตามกฎหมายหรือไม่ ให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า หากเพิกเฉย และตรวจพบภายหลังหรือเกิดเหตุขึ้นอีก เจ้าของพื้นที่ก็ต้องรับผิดชอบทางวินัยและอาญา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง