โรงพยาบาลตำรวจ รับรักษา ทักษิณ จริง ยืนยันทำตามสิทธิ

View icon 21
วันที่ 24 ส.ค. 2566 | 04.20 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เช้าวานนี้ (23 ส.ค.) มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ถูกส่งตัวไปรักษาอาการป่วยเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเข้าเรือนจำไปได้เพียง 13 ชั่วโมง สื่อมวลชนหลายสำนักตรวจสอบข้อมูลก็พบว่าเป็นเรื่องจริง นำสู่การชี้แจงรายละเอียด แต่ความดรามาเรื่อง VVIP ยังไม่จบ ทั้งเรื่องห้องพักและการเตรียมย้ายตัวนายทักษิณ จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเอกชน

ทันทีที่เริ่มมีเพจต่าง ๆ โพสต์ข้อความลงโซเชียลว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษาอาการป่วยอย่างเร่งด่วน ช่วงกลางดึกวันที่ 22 สิงหาคม เข้าสู่วันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา สื่อมวลชนหลายสำนัก พากันไปปักหลักที่โรงพยาบาลตำรวจทันที เพราะมีกระแสข่าวว่า นายทักษิณรักษาตัวอยู่ในห้องรอยัลสูท ห้อง 1404 ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา

พร้อม ๆ กับที่มีกระแสข่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ จะตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเรื่องนี้ร่วมกัน หลังการประชุมหารือ แต่พอสื่อมวลชนจะพากันขึ้นไปรอจุดที่คาดว่าจะแถลงข่าว ปรากฏเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้เข้าไป นำมาซึ่งคำถามว่าจะมีการแถลงชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่

โดยเรื่องการแถลงข่าว ทางกรมราชทัณฑ์ชี้แจงว่า ไม่ได้มีการนัดแถลงข่าวในเรื่องนี้ เนื่องจากนายทักษิณอยู่ในการดูแลของทางโรงพยาบาลตำรวจ และทราบว่าการนัดหมายแถลงดังกล่าวมาจากทางโรงพยาบาลตำรวจ ไม่ใช่ทางกรมราชทัณฑ์

จากนั้นถึงเริ่มมีตำรวจออกมาให้สัมภาษณ์ พูดถึงเรื่องนี้ ยอมรับว่าได้รับรายงานว่า นายทักษิณเข้ารับการตรวจรักษาจริง แต่ไม่ขอลงรายละเอียดมากไป เพราะต้องให้แพทย์ หรือกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ชี้แจง

ขณะที่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม ก็ให้คำตอบในทำนองเดียวกัน ยอมรับว่า นายทักษิณเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจจริง แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดใด ๆ ได้ เนื่องจากตอนนี้ตำรวจเป็นแค่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของกรมราชทัณฑ์เท่านั้น

กระทั่ง พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียด บอกว่า เมื่อคืนได้รับการประสานจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่า นายทักษิณมีอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำ และค่าความดันโลหิตสูงมาก

เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล พบว่า นายทักษิณมีความดันโลหิตสูงถึง 170 มิลลิเมตรปรอท จึงให้พาตัวขึ้นไปที่ชั้น 14 ที่เคยใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อให้ทีมแพทย์ 6 คน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และโควิด-19 ร่วมกันรักษา ก่อนได้รับรายงานผลการรักษาจากทีมแพทย์ว่า นายทักษิณอาการดีขึ้นเล็กน้อย สามารถสื่อสารได้ แต่ยังจำเป็นต้องใส่สายออกซิเจนอยู่ มีความดันโลหิตสูง ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จึงสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี

ส่วนกรณีที่ญาติต้องการย้ายตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้พิจารณา ย้ำว่า ที่ผ่านมาเคยมีกรณีส่งผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยสูงอายุคล้ายกรณีของนายทักษิณ ส่งมาให้โรงพยาบาลตำรวจรักษาเช่นกัน