“วิษณุ”เผย ได้รับหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษของ “ทักษิณ” แล้ว

“วิษณุ”เผย ได้รับหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษของ “ทักษิณ” แล้ว

View icon 134
วันที่ 31 ส.ค. 2566 | 16.46 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วิษณุ” เผย ได้รับหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษของ “ทักษิณ” แล้ว ชี้เป็นเรื่องพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ไม่จำเป็นต้องชี้แจง  พร้อมยืนยัน “ทักษิณ” ยังอยู่รพ.ตำรวจ

วันนี้ ( 31 ส.ค.66)  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า  ได้รับเรื่องการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ จากครอบครัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

สำหรับอาการป่วยของนายทักษิณ จะเป็นเหตุให้มีข้อมูลเพิ่มไปขอพระราชทานอภัยโทษได้หรือไม่ นายวิษณุ ยอมรับว่าเป็นข้อมูลที่สามารถนำไปใช้ได้ โดยปกติแล้ว คนที่ขอพระราชทานอภัยโทษโดยมาก จะอ้างคุณงามความดี 3 ประการ คือคุณงามความดีในอดีต คุณงามความดีในปัจจุบัน เช่นขณะนี้เป็นนักโทษได้เลื่อนชั้นเป็นนักโทษดีเยี่ยม และอาจระบุในอนาคตจะบวชหากได้พ้นโทษไปแล้ว หรือจะไปทำคุณงามความดีก็สุดแล้วแต่  พร้อมระบุ ไม่เคยเจอครอบครัวชินวัตร

ส่วนใครเป็นผู้เขียนขอพระราชทานอภัยโทษนั้น ตนไม่ขอตอบ ซึ่งการเขียนขอพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ เป็นการขอเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวกับโอกาสวันสำคัญ ไม่ต้องดูว่ารับโทษมาแล้วเท่าใด เป็นพระมหากรุณาธิคุณทั้งนั้น โดยย้ำว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบ ส่วนจะทันในสมัยที่ตนเองดำรงตำแหน่งรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้ว่าต้องอยู่ไปนานเท่าไหร่ และประเมินไม่ถูก เพราะยังตั้งคณะรัฐมนตรี ไม่เสร็จ

นายวิษณุ ย้ำ กรณีนายทักษิณ ไม่ใช่ 2 มาตรฐาน โดยต้องแยกให้ออกว่าอะไรเป็นขั้นตอนตามสิทธิ และอะไรเป็นขั้นตอนที่เป็นความเห็นของรัฐบาล หรืออะไรเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อยู่ในพระราชอำนาจ ต้องแยกให้ออกว่ามันเป็น 3 เรื่อง เมื่อหนึ่งเป็นสิทธิของเขา ถ้าเค้าไม่ขอก็จะไม่มีสองและสามตามมา ซึ่งเมื่อขอเรื่องก็จะมายังรัฐบาล ขั้นต่อไปเป็นพระมหากรุณาที่คุณ เป็นพระราชอำนาจ จะพระราชทานอย่างไรก็เป็นเรื่องเสร็จเด็ดขาดตามรัฐธรรมนูญแล้วไม่ต้องให้เหตุผลด้วย

นอกจากนี้ นายวิษณุ ขอใช้เครดิตตัวเอง เพื่อยืนยันว่า นายทักษิณ ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้มีการย้ายไปพักรักษาที่โรงพยาบาลอื่น หรือที่ใด อย่างแน่นอน ซึ่งตนได้ฝากฝัง ให้แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจดูแล ใครไปเยี่ยมไปเยือนก็ไปที่นั่น และอีกหน่อยก็จะเปิดให้คนอื่นเข้าเยี่ยมด้วย