หนุ่มไปรษณีย์กอดคอครอบครัวร่ำไห้ หลังศาลยกฟ้องคดียาเสพติด ชี้ ทำหน้าที่รับพัสดุ ไม่รู้ข้างในซุกยาอี 6 พันเม็ดจากเยอรมนี
วันนี้ (17 ม.ค.67) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายดำที่ ย 35/2566 และคดีหมายเลขแดงที่ ย30/2567 ระหว่างพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ กับนายฉัตรชัย ขาวงาม จำเลย ในข้อหาเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ, จำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาอี) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ และพยายามจำหน่ายโดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (ยาอี) โดยไม่ได้รับอนุญาต ฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ต.ค.65 หน่วยสกัดกั้นยาเสพติด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdictoin Task Force : AITF) ประกอบด้วย ศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย และสำนักงาน ป.ป.ส.ตรวจยึดพัสดุระหว่างประเทศต้นทางจากประเทศเยอรมนี จำนวน 2 กล่อง ซุกซ่อนยาเสพติดประเภท 1 เอ็กตาซี (ยาอี) รวม 6,000 เม็ด เหตุเกิดที่ศูนย์ไปรษณีย์กรุงเทพ หัวลำโพง กทม.
ต่อมา มีการขยายผลจับกุมนายฉัตรชัย ขณะปฎิบัติหน้าที่พนักงานไปรษณีย์ สาขาพระโขนง พร้อมยาเสพติด จึงได้ดำเนินคดีนายฉัตรชัยส่งฟ้องศาลอาญา
นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความจำเลย เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลอ่านคำพิพากษาว่า จากการนำสืบพยานหลักฐานโจทก์ จำเลยแล้ว เชื่อว่านายฉัตรชัย ในฐานะพนักงานไปรษณีย์ สาขาพระโขนง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้ายาเสพติดดังกล่าว เพียงแต่ปฏิบัติหน้าที่ไปรษณีย์มารับกล่องพัสดุที่เกิดเหตุ โดยไม่ทราบว่าข้างในมียาเสพติดดังกล่าว จึงพิพากษา ยกฟ้อง
คำพิพากษาในวันนี้ถือเป็นก้าวแรกของกระบวนการยุติธรรม หลังจากที่จำเลยต่อสู้คดีมายาวนาน ความจริงปรากฎ หลังจากได้ฟังคำพิพากษา นายฉัตรชัยและครอบครัวพากันกอดคอร่ำให้ด้วยความดีใจ ที่ได้รับความยุติธรรมจากกระบวนการทางศาล
