ผัว-เมียคาใจปวดท้อง รพ.ทำทารกในครรภ์เสียชีวิต

View icon 150
วันที่ 14 ก.พ. 2567 | 06.49 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - สามีภรรยาร้องโรงพยาบาลจะนะ ทำทารกในครรภ์ 9 เดือน เสียชีวิต หลังปวดท้องรุนแรงเหมือนจะคลอด แต่พยาบาลเวรบอกให้กลับไปดูอาการที่บ้าน เพราะตรวจไม่พบความผิดปกติ ก่อนสูญเสียลูกสาวไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำเอาคุณพ่อร้องไห้จวนหัวใจสลาย

นับเป็นวินาทีที่ นายสิทธิฉัตร แก้วสุขแสง อายุ 26 ปี ใจสลายร้องไห้อย่างหนัก เพราะภรรยาคือ นางสาวฮารีนา หมัดหลี อายุ 24 ปี ชาวอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ต้องสูญเสียลูกในท้อง อายุครรภ์ 38 สัปดาห์ หรือราว 9 เดือนไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทั้งคู่วาดหวังความสุขที่จะมีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ต่างช่วยกันประคบประหงมกันอย่างดีมาตลอด

จนกระทั่งเมื่อช่วง 03.00 น. วันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นางสาวฮารีนา มีอาการปวดท้องคล้ายจะคลอด ทางสามีรีบพาภรรยาไปโรงพยาบาลจะนะ เพราะใกล้บ้าน ซึ่งเวลานั้นทางพยาบาลที่เข้าเวรได้ตรวจเช็กอาการครู่หนึ่ง แล้วบอกว่าทุกอย่างปกติ ให้กลับบ้านได้ ให้กลับมาสังเกตอาการที่บ้าน หากปวดท้องรุนแรงคล้ายจะคลอด ค่อยพากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ซึ่งตอนนั้นมีเพียงพยาบาลเวรเพียงคนเดียวที่ทำการตรวจ ไม่มีแพทย์เวร หรือขอคำปรึกษาจากแพทย์ หรือให้พักสังเกตอาการที่โรงพยาบาล รวมทั้งยังสังเกตเห็นคล้ายมีเลือดออกมาจากช่องคลอดของภรรยาด้วย

กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ภรรยาปวดท้องมาก สามีจึงพาไปโรงพยาบาลจะนะอีกครั้ง ทางพยาบาลได้พาไปตรวจที่ห้องรอคลอด ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากภรรยาว่า ลูกในครรภ์เสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางพยาบาลก็พูดกับภรรยาด้วยว่า ทำไมไม่พามาให้ไวกว่านี้ ในวินาทีใจสลายของพ่อ ซึ่งร้องไห้เสียใจตามคลิป ก่อนที่ทางโรงพยาบาลจะนะ จะส่ง นางสาวฮารีนาไปคลอดที่โรงพยาบาลสงขลา ในเวลาประมาณ 04.30 น. วันเดียวกัน แพทย์พาเข้าห้องฉุกเฉิน เพื่อทำคลอดออกมาเป็นทารกเพศหญิง แต่เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นแพทย์วินิจฉัยว่าอาจจะสำลักน้ำคร่ำ และสายสะดือพันกันเป็นเหตุให้เสียชีวิต

หลังประกอบพิธีศพลูกสาวตามหลักศาสนาอิสลาม และพักรักษาตัวแล้ว เมื่อวานนี้ ทั้งคู่พร้อมด้วยทนายความ นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เพื่อให้มีการตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางทีมแพทย์ พยาบาล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งขอรับสิทธิเยียวยาตามกฎหมายด้วยนั้น

ทาง นายสิทธิฉัตร ยังเล่าวินาทีที่โรงพยาบาลจะนะ ส่งต่อภรรยาตนเองขึ้นรถฉุกเฉินไปไปทำคลอดที่โรงพยาบาลสงขลา แต่ระหว่างนั้นมีหัวเด็กโผล่ออกมา พยาบาลยังดันให้หัวเด็กกลับเข้าไป โดยอ้างว่าไม่มีเครื่องมือทำคลอด

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ นายแพทย์หมัด หีมเหม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้ว จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผู้ป่วยปวดครรภ์ และเข้ายังโรงพยาบาลจะนะนั้น พยาบาลที่เข้าเวรก็มีความเชี่ยวชาญเรื่องทำคลอดเช่นเดียวกัน แต่ยังพบว่ามีความเป็นปกติ ยังไม่ถึงเวลาที่จะคลอดตามหลักทางการแพทย์ จึงให้ทางสามีพาภรรยากลับไปดูอาการที่บ้านอีกครั้ง ซึ่งจุดนี้จะต้องมีการสอบสวนอีกครั้งว่า เป็นความสะเพร่า หรือบกพร่องหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ทางสามีสังเกตเห็นคล้ายมีเลือดออกมาจากช่องคลอดภรรยานั้น พบว่าเป็นลักษณะมูกเลือด ไม่ใช่เลือดจากอาการตกเลือดที่เป็นอันตราย

ส่วน กรณีนำส่งโรงพยาบาลสงขลา เพราะผู้เป็นแม่ไม่สามารถคลอดทารกออกมาได้ หลังรอนานราว 3-4 ชั่วโมง แต่ที่ผู้เสียหายบอกว่า ระหว่างอยู่บนรถฉุกเฉิน พยาบาลเอามือไปดันศีรษะไม่ให้ทารกคลอดออกมานั้น ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการห้ามไม่ให้ทารกคลอด แต่ป้องกันมดลูกของแม่ฉีกขาดเป็นแผล ในกรณีทารกพุ่งพรวดออกมา เพราะเครื่องมือบนรถไม่พร้อมที่จะทำคลอดลักษณะดังกล่าว จึงจำเป็นต้องประคองเอาไว้ จนกว่าจะถึงโรงพยาบาลสงขลา เพื่อให้แม่ปลอดภัย ไม่บาดเจ็บรุนแรง

ล่าสุดมีรายงานว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทราบเรื่อง และสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยเร่งด่วนแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง