แย่งกันใช้พื้นที่ส่วนกลาง ถูกเพื่อนบ้านนำปืนมายิง

View icon 55
วันที่ 26 มี.ค. 2567 | 05.06 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เพื่อนบ้าน 2 หลัง แย่งกันใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางจนเกิดความขัดแย้ง แล้วเกิดบานปลายกลายเป็นเหตุไม่คาดฝัน

จ่อยิงอย่างนั้น จะเรียกว่าเป็นระยะเผาขนเลยก็ได้ และก็ต้องถือว่าเป็นเคราะห์ดีของหญิงผู้เสียหาย เพราะในจังหวะที่ลั่นไก ปืนได้เกิดถีบจนปากกระบอกเชิดสูงขึ้น ทำให้ "กลุ่มกระสุน" พุ่งไปถูกผนังปูนบริเวณโรงจอดรถบ้านของผู้เสียหาย เมื่อยิงเสร็จแล้ว ผู้ก่อเหตุยังเดินไปที่หน้าบ้านของหญิงสาว  ทำเอาเธอต้องรีบวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน

ที่ใช้คำว่า "กลุ่มกระสุน" เพราะว่าปืนที่ผู้ก่อเหตุนำมายิงใส่ เป็นปืนลูกซองยาว ที่ใช้กระสุนลูกปราย และต้องถือว่าเป็นเคราะห์ดี เพราะระยะยิงที่ใกล้ ทำให้กระสุนยังเกาะกลุ่มกันอยู่ ไม่แผ่กระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น อาจจะมีกระสุนบางเม็ดพุ่งไปถูกผู้เสียหายก็ได้ 

ส่วนแผลบนหน้าผากของผู้เสียหาย คาดว่า น่าจะเกิดจากการถูกสะเก็ดปูนของกำแพงรั้ว กระเด็นไปถูก

สำหรับสาเหตุที่ถูกบุกไปยิง ผู้สื่อข่าวสอบถามหญิงผู้เสียหาย ก็อ้างว่าไม่รู้ว่าเกิดจากเรื่องอะไร แต่ก็พอจะทราบจากที่ชาวบ้านพูดคุยว่า ผู้ก่อเหตุไม่ชอบขี้หน้าตนเองเท่านั้น และยังบอกอีกว่าบ้านที่เกิดเหตุเป็นของสามี ตนเองมาอาศัยอยู่ได้ราว 10 ปี ช่วงโควิดก็ตกงาน จึงเริ่มปลูกต้นไม้ เพาะต้นไม้ขาย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คู่กรณีไม่พอใจ เพราะตนใช้พื้นที่ว่างนอกบ้าน ปลูกต้นไม้ วางกระถางต้นไม้ และเคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะยืนรดน้ำต้นไม้อยู่นอกบ้าน คู่กรณีได้เดินมาไล่ให้ย้ายต้นไม้ออกไป แต่ตนเองไม่อยากทะเลาะด้วย จึงเดินหนีเข้าบ้านไป

สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 58 ปี ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ได้มาจับตัวไปแจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนฯ ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามตำรวจเจ้าของคดี ทราบว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องที่กลับรถ ที่จอดรถ ตรงพื้นที่ว่าง ๆ ระหว่างบ้านทั้ง 2 หลัง  

ซึ่งจริง ๆ แล้ว พื้นที่ดังกล่าว โดยทั่วไปจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง ที่คนในหมู่บ้านใช้ร่วมกัน แต่จากภาพถ่ายจะสังเกตเห็นว่า คู่กรณีต่างก็ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าว และก็น่าจะมีเพียงบ้าน 2 หลังนี้เท่านั้น ที่ใช้พื้นที่ 

ส่วนเรื่องคดี ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานโดยในชั้นพนักงานสอบสวน ก็ได้คัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าหากปล่อยไปอาจจะไปก่อเหตุแบบเดิมขึ้นอีก