จอดรถขวางหน้าบ้าน หัวร้อนแทงตำรวจ โดนยิงสวน สาหัสทั้งคู่

จอดรถขวางหน้าบ้าน หัวร้อนแทงตำรวจ โดนยิงสวน สาหัสทั้งคู่

View icon 22
วันที่ 31 มี.ค. 2567 | 08.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าของบ้านหัวร้อนโวยวายไล่ตำรวจจอดรถลงไปซื้อของขวางหน้าบ้าน คว้ามีดแทง ฝั่งตำรวจยิงสวน เจ็บสาหัสทั้งคู่

ค่ำวานนี้ (30 มี.ค.67) ร.ต.ท.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสูง รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาท ใช้อาวุธมีดแทงคู่กรณี ก่อนอีกฝ่ายจะใช้ปืนยิงสวน บาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน  ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านขายหมูกระทะตักกิโล พบผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน นอนรอความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือนายสนธิชัย อายุ 72 ปี ใกล้กันพบอาวุธมีดปลายแหลมขนาด 1 ฟุต พร้อมปลอกตกอยู่ ตรวจสอบมีบาดแผลตามร่างกายเนื่องจากถูกอาวุธปืนยิง ห่างออกมา พบ ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ อายุ 55 ปี รอง สวป.สภ.โนนสูง นอนได้รับบาดเจ็บถูกแทง บริเวณท้องฝั่งขวาไส้ทะลักออกมา ห่างออกไปพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่

เจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาล จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบรอยกระสุนปืนที่พื้นถนน และปลอกกระสุนตกอยู่ 8 ปลอก อยู่ในแมกกาซีนเหลือ 5 นัด และในรังเพลิงอีก 1 นัด

นายอธิวัฒน์ วรพันธ์ อายุ 34 ปี กู้ภัยทางหลวงอุดรธานี เล่าว่า หลังรับแจ้ง พบผู้บาดเจ็บ 2 คน มีบาดแผลถูกแทงที่ท้องและถูกยิงตามลำตัว ช่วงแรกทั้งสองคนรู้สึกตัวดี จึงได้ทำการปฐมพยาบาล และรอทีมกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีเข้ามารับตัว

ส่วนแม่ค้าก๋วยเตี๋ยว อายุ 52 ปี เล่าว่า เห็นตำรวจขับรถมาจอดหน้าบ้านที่เกิดเหตุเพื่อลงมาซื้อของ ปกติก็ไม่เคยเห็นเจ้าของบ้านเอารถออกตอนกลางคืน มีเพียงแค่ลูกชายขี่รถ จยย.เข้าบ้าน บริเวณแถวนี้ก็จะมีพี่น้องกันทั้งนั้น ตอนเกิดเหตุได้ยินเสียงทะเลาะกัน ไม่คิดว่าจะรุนแรงกันขนาดนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าใครลงมือก่อน

พ.ต.อ.ฉกาจณ์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากข้อมูลเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากบ้านของนายสนธิชัย ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงตำรวจ เปิดเป็นร้านเนื้อย่าง แต่วันนี้ร้านปิด ร.ต.ต.ทนงศักดิ์ขับมาจอดขวางหน้าบ้าน แล้วคงจะมีการบอกเตือนว่าไม่ให้จอดหน้าบ้าน จากนั้นนายสนธิชัย เจ้าของบ้านที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ภายในบ้านเดินออกมาพร้อมกับใช้อาวุธมีดแทงตำรวจที่ท้อง ส่วนตำรวจได้ใช้ปืนยิงสวนทำให้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนประจำตัวของตำรวจ ซึ่งจะได้มีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง