สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - "บิ๊กโจ๊ก" ฟังผลการแถลงข่าวนี้แล้ว น่าจะมีนั่งไม่ติด เพราะคณะกรรมการที่ตั้งโดยนายกรัฐมนตรี เชื่อว่ากระทำผิดจริง และย้ำว่าผลตรวจสอบนี้ ออกมาก่อนที่ศาลจะออกหมายจับด้วย ส่วน "ผบ.ตร." ยังตรวจสอบไปได้แค่ 40% ต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐาน และสอบปากคำ "ทนายตั้ม" สัปดาห์หน้า
คนที่ออกมายืนยันเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใคร คือ พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องคดี ของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ชี้แจงแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเรื่องของ "บิ๊กโจ๊ก" พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ได้สืบสวนสอบสวนมาจนสุดทาง สอบปากคำพยานไปมากกว่า 30 ปาก เรียกดูทั้งผลการทำคดีของพนักงานสอบสวน คำร้องขอศาลออกหมายจับ ผลการพิเคราะห์หมายจับของศาลอาญา และการแสวงหาข้อมูลของคณะพนักงานตรวจสอบเอง
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปในทางเห็นพ้อง กับเหตุผลที่ศาลออกหมายจับ เชื่อได้ว่า "บิ๊กโจ๊ก" รู้ว่าเส้นทางการเงินที่มาถึงตนเองมาจากการกระทำผิด หรือมาจากเว็บฯ พนันออนไลน์ และได้รับประโยชน์จากเงินเส้นทางนี้ หลังจากนี้ก็เหลือเพียงว่า เมื่อ "บิ๊กโจ๊ก" มารายงานตัวตามระเบียบของ ตร. จะให้การอย่างไร จะยอมรับ ปฏิเสธ หรือชี้แจง ก็ยังพอมีเวลาจนถึงสิ้นเดือนนี้
ส่วน "บิ๊กต่อ" พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้ตรวจสอบไปได้แค่ 40% ที่ผ่านมาได้เรียกคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ สน.เตาปูน มาชี้แจง และได้รับหลักฐานที่ "ทนายตั้ม" เคยนำไปแฉมาให้พิจารณาแล้ว
แต่ยังต้องรอตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และยังต้องซักถามรายละเอียดต่าง ๆ เช่นว่า ได้พยานหลักฐานนี้มาอย่างไร คาดว่าหลังนัดคุยกันที่บ้านมนังคศิลา ในสัปดาห์หน้า จะมีความชัดเจนเรื่องนี้มากขึ้น และเชื่อว่าการพิจารณาจะได้ข้อสรุปทัน ก่อนที่ "ผบ.ตร." จะเกษียณอายุราชการ
ส่วนที่เมื่อวาน "ทนายตั้ม" บอกจะพาพยาน 2 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปรากฏ 1 ใน 2 คนนี้ ก็คือ "พิมพ์วิไล" แอดมินเพจเว็บฯ พนัน "BNK Master" ที่มาพร้อมกับทนายความ พูดกับสื่อตรง ๆ ว่า "ความจริงก็คือความจริง" ก่อนที่ ตำรวจ บก.ปปป. จะตามมาร่วมสอบปากคำด้วย
โดย ทนายตั้ม บอกว่า "พิมพ์วิไล" ให้การกับตำรวจ ยืนยันว่าเคยโอนเงินให้ตำรวจมาแล้วทุกหน่วยงาน แต่ที่เจ็บใจ คือ โอนเงินให้ชุด PCT4 ทุกเดือน แต่กลับถูกตำรวจชุดนี้จับกุม จึงรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ตัดสินใจเอาผิดกับตำรวจที่เรียกรับเงิน
มีรายงานข่าวว่า พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้ส่งสำนวนคดีตบแต่งบัญชีทรัพย์สินของ "บิ๊ก จ." ที่ร่วมกับพวกอีก 2 คน ให้ ป.ป.ช. พิจารณาไปเมื่อวานนี้ ความผิดที่เกี่ยวข้องมีทั้งเรื่องติดสินบนเจ้าพนักงาน, ให้การเท็จ, สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิด และยื่นบัญชีเท็จ โดยในสำนวนยังพ่วงไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เพิ่งมีข่าวว่าลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า "รองผู้บังคับการกองร้องทุกข์" สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์กับ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติ และจริยธรรมของ พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร หนึ่งในคณะกรรมการ ก.ร.ตร. ที่เห็นว่ามักจะไลฟ์สดและให้สัมภาษณ์ออกสื่อ ในลักษณะที่มีอคติ ไม่มีความเป็นกลาง ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
