โอนเกินด้วยซ้ำ ! หนุ่มงัดหลักฐาน ชี้แจง หลังถูกป้าเจ้าของร้านทุเรียนกล่าวหาบี้ยวค่าทุเรียนคัดเกรด ยืนยัน ไม่ได้โกงค่าทุเรียน ได้นำสลิปการโอนทั้งหมดไปให้สำนักงานบัญชี ตรวจสอบ พบว่ามียอดโอนเงินเกินไปกว่า 3 หมื่นบาทด้วยซ้ำ
จากกรณี เมื่อวันที่ 12 เม.ย.67 คุณป้าร้านทุเรียนคัดเกรด ในตลาดไอยรา จ.ปทุมธานี ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ อ้างถูกหนุ่มโพรไฟล์ดี เบี้ยวค่าทุเรียนเกือบครึ่งล้านไป จนหมดเนื้อหมดตัว ไปต่อไม่ไหว ต้องออกมาโพสต์ร้องขอความเป็นธรรม โดยป้าร้านทุเรียน เผยว่า เห็นว่าโพรไฟล์ดี น่าเชื่อถือเลยร่วมทำธุรกิจด้วย ทุกครั้งที่ตีบิลรับของไปขาย ชายคนดังกล่าวมักจ่ายเงินให้ไม่ครบตามที่แจ้ง โดยอ้างว่าเดี๋ยวโอนให้ภายหลัง ซึ่งป้าก็ยังเชื่อใจเพราะคิดว่าทำธุรกิจร่วมกันแล้ว ไม่น่าจะคิดโกงกัน
โดยทุเรียนที่รับไปจากร้านอยู่ที่ราคา 500-550 บาทต่อกิโลกรัม แต่พบว่าเอาไปขายในราคา 1,500 บาทต่อกิโลกรัม น่าจะได้กำไรมาแบ่งจ่ายให้กับป้าบ้าง แต่กลับยังค้างจ่ายสะสม เป็นดินพองหางหมู เป็นจำนวนกว่า 650,000 บาท พยายามโทรติดต่อ ทวงถามหนี้ที่ค้างคากัน แต่ชายคนดังกล่าวปฏิเสธไม่รับสาย บ่ายเบี่ยงมาตลอด เคยจ้างทนายความมาเคลียร์ปัญหา แต่กลับถูกเอาเปรียบขอเรียกเงินค่าทนายสูงจนต้องขอยกเลิกไป กระทั่งกลางปีก่อน ชายคนดังกล่าวมาอาละวาดถึงที่ร้าน ชี้นิ้วด่าทอลูกน้อง ตอนนี้ยอมรับว่า ลำบากมาก บางวันต้องอดมื้อกินมื้อ อาศัยพื้นที่ในร้านหลับนอน เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน ไม่มีเงินทุนไปรับทุเรียนมาขาย ต้องกู้ธนาคาร หรือกู้หนี้นอกระบบมาหมุนใช้ไปวันๆ อยากขอให้สื่อช่วยเหลือนำเสนอประเด็นนี้ เพราะป้าอยากได้เงินที่ชายคนดังกล่าวติดหนี้เธอคืน
ล่าสุดนายนิติพงค์ คู่กรณีที่ถูกกล่าวหา ติดต่อมายังทีมข่าว 7 HD พร้อมหิ้วหลักฐานทั้งสลิปการโอน และบัญชีรายรับรายจ่าย มาชี้แจ้งประเด็นที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยนายนิติพงค์ ยืนยันกับทีมข่าวว่า ตนเองไม่ได้ติดหนี้คุณป้า ตามที่ถูกกล่าวหาไปอย่างแน่นอน เพราะตลอดที่ทำการซื้อขายกันตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน 2565 มีการทำบันทึกรายรับรายจ่ายทุกครั้ง และมีหลักฐานสลิปการโอนตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ภายหลังคุณป้ามีการพาดพิงถึงตนไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนำสลิปการโอนทั้งหมดไปให้สำนักงานบัญชีช่วยตรวจสอบ พบว่ามียอดการซื้อขายกันทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 2,340,567 บาท ซึ่งตนได้โอนจ่ายให้คุณป้าไปแล้ว 2,371,032 บาท และถ้าดูจากยอดทั้งหมด ตนเองได้โอนเงินเกินไปกว่า 3 หมื่นบาทด้วยซ้ำ
นายนิติพงค์ ยังบอกกับทีมข่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนคอยช่วยเหลือคุณป้ามาโดยตลอด นับถือเหมือนแม่อีกคน ขาดเหลือบกพร่องตรงไหนก็คอยยื่นมือเข้าช่วยทุกครั้ง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจุดประสงค์ที่คุณป้าออกมาให้ข้อมูลกับสื่อจนทำให้ตนเสื่อมเสียเป็นเพราะอะไร และยังฝากบอกกับคุณป้าอีกด้วยว่าตนไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นกับสิ่งที่ป้าทำไป เพราะตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง ใครทำอะไรไว้ก็ได้ตามนั้น ส่วนการดำเนินคดี ตนขอให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของตำรวจและทนายความหลังจากนี้
