นักเรียนชาย ม.6 เข้าห้องน้ำห้างดัง เจอหนุ่มกลัดมัน ลากแขนเข้าห้องส้วมหวังทำการอนาจาร เคราะห์ดีหนีออกมาเรียก รปภ.จับตัวไว้ได้ พบก่อเหตุแบบนี้หลายครั้งแล้ว
น้องเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนระดับชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 23 เม.ย.2567 ที่ผ่านมา ตนไปทานข้าวกับเพื่อน 2 คนบนห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเมืองขอนแก่น หลังจากทานเสร็จได้ไปเข้าห้องน้ำที่ชั้น 3 ของห้างแต่ไปคนเดียว โดยในห้องน้ำมีผู้ก่อเหตุ รูปร่างสูง หน้าตาดี ผิวขาว แต่งตัวดี อายุประมาณ 30 ปี อยู่ก่อนหน้าแล้ว ต่างคนต่างมองหน้ากันแค่แว๊บเดียว
หลังจากนั้นตนจึงเดินเข้าห้องส้วมไปปัสสาวะ เสร็จแล้วก็ออกมากำลังล้างมือที่ก๊อกน้ำ ผู้ก่อเหตุยังมองตามไม่ละสายตา และถามบางอย่างกับตนเอง ซึ่งตนเองไม่ได้ยินเนื่องจากเสียงก๊อกน้ำดัง ตนเองจึงถามกลับไปว่าอะไรนะครับ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วหอมแก้ม ก่อนจะจับอวัยวะเพศตนเองแล้วดึงแขนตนเองเข้าห้องส้วมไป ซึ่งก่อนที่จะลากตนเองไปนั้น ตนเองเอะใจอยู่แล้วว่าอาจจะมีอะไรแน่ๆ จึงได้กดอัดถ่ายคลิปเอาไว้ก่อน
หลังจากผู้ก่อเหตุดึงตนเองเข้าไป ตนเองพยายามดึงแขนกลับคืนแต่สู้แรงไม่ไหว จึงปล่อยไปก่อนเพื่อหาจังหวะหนี เพราะอัดคลิปไว้แล้ว พอจังหวะเดินตามไปผู้ก่อเหตุเผลอตนเองจึงผลักแล้วรีบดึงมือออก ก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนขอความช่วยเหลือ ก่อนที่เพื่อนจะมาจับตัวเอาไว้ และเรียก รปภ.มาควบคุมตัว ก่อนจะแจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุ โดยผู้ก่อเหตุอ้างว่าจะขอไอดีไลน์
หลังเกิดเหตุตำรวจแนะนำให้พูดคุยและไกล่เกลี่ยกันถึงค่าทำขวัญ ตนจึงเรียกไป 5,000 บาท แต่ชายดังกล่าวบอกว่าหากจะเอาเงินต้องไปที่รถ เพราะมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง และบอกอีกว่ามีเงินเพียง 3,000 บาท ก่อนที่ตนเองและเพื่อนจะไปที่รถโดยมี รปภ.ไปด้วย ซึ่งขณะนั้นคิดว่าตนเองกับเพื่อนมีธุระต่อจึงต้องการให้จบเรื่องเร็วที่สุด จึงได้เอาเงินมาก่อนโดยยังไม่ได้ปรึกษาผู้ปกครอง เพราะเป็นการคุยกัน 3 คน ซึ่งตอนที่รับเงินนั้นยังติดใจอยู่ แต่คุยกันแล้วว่าจะต้องไปเรียนไปทำงานอื่นๆ หากดำเนินคดีก็คงไม่มีเวลา จึงเลือกที่จะเอาเงินแล้วออกมาก่อน
แต่ส่วนตัวอยากเอาผิดผู้ก่อเหตุ เพราะมีหลายคนทักมาบอกว่าเคยโดนผู้ก่อเหตุทำแบบนี้เช่นเดียวกัน ทั้งจับอวัยะเพศ ลากแขนเข้าห้องน้ำหวังทำอนาจาร แต่ไม่มีใครอัดคลิปไว้ และไม่มีใครทำอะไรกับเขาเลย จึงมองว่าหากปล่อยไปก็จะทำให้เป็นอันตรายต่อสังคม เพราะเชื่อว่าจะต้องกลับไปก่อเหตุซ้ำอีกหลายๆ ที่ จึงมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองจึงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร แต่ส่วนตัวต้องรอปรึกษาผู้ปกครองก่อน
