กองปราบปราม รวบเพิ่มมือยิงโหดสาวเมืองคอนฝังดินบนเขาล้อม

กองปราบปราม รวบเพิ่มมือยิงโหดสาวเมืองคอนฝังดินบนเขาล้อม

View icon 177
วันที่ 10 พ.ค. 2567 | 11.09 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบเพิ่มแก๊งอุ้มฆ่าสาวเมืองคอน เอาศพฝังดินหลังสำนักสงฆ์เขาล้อม หลังกองปราบปราม ตามจับมือยิงพร้อมแก๊งชิงรถยนต์ไปขายประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดรับสารภาพ

กองปราบปราม วันนี้(10 พ.ค.2567) ตำรวจกองบังคับการปราบปราม นำโดย พ.ต.ท.ฤทธิชัย  ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป.และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม นายธนวิชญ์ หรือเพชร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสงกระทำความผิดฐาน“ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” จับได้บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา รวมถึงนายไพฑูรย์ หรือโอ๊ต (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” โดยจับได้ริมถนนสายบ้านเก่า - ห้วยน้ำขาว ม.2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี และ น.ส.อำพิลา หรือแต้ว (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันรับของโจร” จับกุมได้ ริมถนนสุขภิบาลหวายเหนียวสาย 2 ม.1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 น.ส.สุพัตรฯ ญาติผู้ตาย ที่ ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งความว่า น.ส.สุดารัตน์ หรือเอ๋ฯ ซึ่งเป็นน้องสะใภ้ ได้หายตัวไปจากบ้าน ที่ ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ขค 1797 นครศรีธรรมราช หายไปพร้อมกัน เกรงว่า น.ส.สุดารัตน์ฯ อาจจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช  ตำรวจ กก.5 บก.ป. จึงร่วมกับตำรวจในท้องที่ ทำการสืบสวน โดยตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบประตูห้องนอนของ น.ส.สุดารัตน์ฯ ถูกทุบทำลายได้รับความเสียหาย จึงเชื่อว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์ฯ น่าจะเกิดจากการถูกประทุษร้ายต่อชีวิต 

ต่อมาวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์คันดังกล่าว ขับผ่าน ต.หนองบัว อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้า อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ชายแดนด้านทิศตะวันตก กระทั่งวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ติดตามตรวจยึดรถยนต์ดังกล่าวไว้ได้ ก่อนจะสืบสวนพบว่าการหายตัวไปของ น.ส.สุดารัตน์ฯ ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีการร่วมกันกระทำความผิดโดยเตรียมการวางแผน แบ่งหน้าที่กันมาก่อนแล้ว เพื่อให้ได้ไปซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับฆ่า น.ส.สุดารัตน์ฯ แล้วอำพรางศพด้วยการฝังกลบดิน 

กระทั่งวันที่ 13 มีนาคม 2566 ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ร่วมกับตำรวจ กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช เดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม เมื่อเดินเท้าขึ้นไปได้ประมาณ 300 - 400 เมตร ลักษณะเป็นเนินสันเขา ข้ามลำห้วยไปประมาณ 10 เมตร พบร่อยรอยการขุดดินมีเศษใบไม้และก้อนหินวางปิดทับอยู่ ได้ใช้จอบขุดดินออก พบศพ น.ส.สุดารัตน์ฯ ใส่ชุดคลุมสีเหลือง นอนตะแคงชันเข่า โดยมีผ้าห่มสีเขียวคลุมห่อไว้ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน กระสุนฝังในศีรษะจำนวน 1 นัด 

จากการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียง มีบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมกันในการกระทำความผิดและถูกศาลจังหวัดทุ่งสงออกหมายจับจำนวน 9 ราย โดย 1 ในคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุตั้งแต่ต้นคือ นายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นคนที่บุกเข้าเอาตัว น.ส.สุดารัตน์ฯ มาจากในบ้านในพื้นที่ ต.ช้างกลาง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับนำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ มาส่งมอบให้กับพวก ขับมุ่งไปจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากสับเปลี่ยนรถยนต์ที่ขับขี่มาแล้ว นายธนวิชญ์ฯ ก็ได้เปลี่ยนไปขับขี่รถยนต์เก๋งคันยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน กธ 9683 ตรัง พา น.ส.สุดารัตน์ฯ เดินทางไปที่หลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้ไปพบกับนายอนุสรณ์ (สงวนนามสกุล) แล้วร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สุดารัตน์ฯ ถึงแก่ความตายแล้วช่วยกันขุดหลุมฝังศพเอาไว้บนเนินเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อมดังกล่าว หลังเกิดเหตุต่างก็ได้แยกย้ายกันหลบหนีออกนอกพื้นที่ 

จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานมีผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 ราย แบ่งกลุ่มได้ ดังนี้
กลุ่มผู้ลักพาตัว (อุ้มฆ่า)
1. นายธนวิชญ์ หรือเพชร (สงวนนามสกุล)
2. นายอนุสรณ์ หรือสร (สงวนนามสกุล) หลบหนี
3. นายบุญยืน หรือกบ (สงวนนามสกุล)
4. นายสุขพินันท์ หรือสุข (สงวนนามสกุล)

กลุ่มผู้นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน
5. นายชัยญา หรือบี (สงวนนามสกุล) หลบหนี
6. นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) หลบหนี
7. นายไพฑูรย์ หรือโอ้ต (สงวนนามสกุล)
8. น.ส.อำพิลา หรือแต้ว (สงวนนามสกุล)
 
กลุ่มซ่อนเร้นอำพรางศพ
9. นายเอกลักษณ์ (สงวนนามสกุล) 

ทั้งนี้ นายบุญยืนฯ, นายสุขพินันท์ฯ และนายเอกลักษณ์ฯ ได้ถูกตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมไปก่อนหน้านี้ และ นายบุญยืนฯ, นายสุขพินันท์ฯ ถูกศาลพิพากษาลงโทษข้อหา “ปล้นทรัพย์” จำคุกคนละ 9 ปี ส่วนนายเอกลักษณ์ฯ ถูกศาลพิพากษาลงโทษข้อหา “ซ่อนเร้นอำพรางศพ” จำคุก 1 ปีเศษ 

ต่อมาวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่านายธนวิชญ์ฯ ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองพังงา จ.พังงา ส่วนนายไพฑูรย์ฯ และน.ส.อำพิลาฯ ได้หลบหนีไปอยู่พื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานการปฏิบัติกับชุดหนุมานกองปราบ เพื่อวางแผนเข้าทำการจับกุมเอาไว้ได้ โดยสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป