เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าพ่อค้าออนไลน์ในคอนโดมิเนียม ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ขณะที่ผู้ต้องหาเปิดปากครั้งแรก อ้างเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิด และอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตกับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป
นี่คือน้ำเสียงของ "โฟโต้" อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าพ่อค้าออนไลน์ อายุ 54 ปี หมกคอนโดมิเนียม ย่านงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนับเป็นการเปิดปากครั้งแรกเมื่อวานนี้ ในระหว่างตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี นำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุม สภ.เมืองนนทบุรี ส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า "มีอะไรเครียดหรือไม่" ซึ่งโฟโต้ ผู้ต้องหายอมรับว่า "เครียดทุกเรื่อง กังวลตั้งแต่วันแรกที่มีเหตุการณ์ การตกเป็นจำเลยของสังคม ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอโทษสังคม และครอบครัวด้วยที่ทำให้เดือดร้อน ส่วนที่ซื้อมีด ไม่ได้ต้องการไปทำร้ายใคร แต่ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อป้องกันตัว หลังมีปัญหาและมีปากเสียงทะเลาะกัน ทั้งนี้เจ้าตัวยังย้ำว่า ไม่ได้เตรียมการไปฆ่า แต่มีปัญหากับผู้ตายเรื่องการทำธุรกิจ"
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังบอกอีกว่า "ตอนนี้ยอมรับผิด ไม่ร้องขอให้ประกันตัว แต่ที่เลือกหลบหนีในตอนแรก เพราะไม่มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ารับความจริง อยากกลับบ้านเพื่อไปพูดคุยกับครอบครัวก่อน"
ก่อนหน้านี้ พ่อของผู้ต้องหาเดินทางไปที่ สภ.เมืองนนทบุรี นำข้าวเหนียวหมูปิ้ง และน้ำดื่มมาให้ และเข้าเยี่ยมพูดคุยกับลูกชาย ก่อนพ่อออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายสำนึกผิด พร้อมขอโทษไปทางผู้เสียชีวิต และเมื่อวานไม่ได้ให้ทนายยื่นประกันตัวลูกชาย ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุ ลูกชายสารภาพกับตำรวจไปแล้ว พ่อขอไม่ตอบว่า ลูกทำไปเพราะอะไร ป้องกันตัว หรือการทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องธุรกิจ หลังจากนี้พ่อจะประสานกับตำรวจ และครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อไปขอขมาและไปร่วมงานศพของผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ญาติและครอบครัวของพ่อค้าออนไลน์ นิมนต์พระไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ย่านงามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี และบอกว่าจะจัดพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่ทางหลวง อำเภอเมืองนนทบุรี ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่าลูกชายบีบคอจะทำร้ายผู้ต้องหานั้น ยืนยันว่าลูกชายไม่สู้คน อุปนิสัยเรียบร้อย ลูกตายไปแล้วเขาจะพูดอย่างไรก็พูดได้ แม่ยืนยันไม่ให้อภัยคนที่ฆ่าลูก จากพฤติกรรมที่โหดร้าย ขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนพ่อผู้ต้องหา ต้องการมาร่วมพิธีเคารพศพครอบครัวตน ก็ยินดี อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุ ยังไม่ได้รับการติดต่อพูดคุย หรือขอโทษจากครอบครัวของผู้ก่อเหตุเลย
