มท.1  ตอกย้ำ ความร่วมมือทุกภาคส่วน จริงจังจับจริง เครือข่ายยาเสพติด

มท.1 ตอกย้ำ ความร่วมมือทุกภาคส่วน จริงจังจับจริง เครือข่ายยาเสพติด

View icon 93
วันที่ 8 มิ.ย. 2567 | 15.21 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
“อนุทิน”แถลงผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติดก่อนส่งเข้ากรุง  4.8 ล้านเม็ด มูลค่า 140 ล้านบาท ย้ำทุกหน่วยบูรณาการเข้มสกัดทุกเส้นทางลำเลียง ขู่ ตัดไฟ ตัดอินเตอร์เน็ตทันที หากพบชุมชนตะเข็บชายแดนตั้งโรงงานปั๊มยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันนี้ (8 มิ.ย.67) ที่สถานีตำรวจภูธรสามโคก จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการแถลงข่าว การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดซึ่งเตรียมส่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 4.8 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 140 ล้านบาท  ซึ่งทีมป้องกันยาเสพติดของภาคส่วนต่างๆ ทำงานเป็นหนึ่งเดียว ตั้งแต่การสืบ ติดตาม เข้าตรวจค้นและจับกุม ซึ่งครั้งนี้ก็มีลักษณะเหมือนกับหลายครั้งที่การขนถ่ายจะทำเป็นขบวนการ รับช่วงกันมาเป็นทอดๆ และจากลักษณะหีบห่อก็รู้ได้ว่ามาจากแหล่งเดียวกัน มาจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านเข้ามาทาง จ.เชียงราย พร้อมยืนยัน ยาเสพติดที่จับกุมได้แล้วจะไม่หลุดเข้าไปเป็นยาเสพติดหมุนเวียนแน่นอน

“อยากขอเน้นย้ำกับผู้คิดจะทำผิดด้วยการเข้าร่วมรับจ้างขนว่า อย่าทำเลยเพราะเมื่อถูกจับกุมแล้วโทษที่ลงนั้นไม่ได้คุ้มกับเงินที่ได้ เช่นกรณีของผู้ต้องหาคดีนี้ก็รับจ้างขนได้รับค่าตอบแทนเพียง 3,000 บาทเอง แต่อนาคตต้องมาสูญสิ้นเพราะขนาดยาเสพติดที่จับได้ 4.8 ล้านเม็ดนี้โทษสูงสุดคือประหารชีวิต เอาเข้ามาเท่าไหร่เราก็จับได้หมด และของพวกนี้ก็ต้องถูกทำลาย”

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ทางการได้เห็นว่าขบวนการค้ายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงลงไปทาง จ.กาญจนบุรี ฝั่งตะวันตกของไทย เนื่องจากทางภาคเหนือได้มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่หนาแน่นมากขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รายงานการจับกุมให้ทราบเกือบทุกวัน ซึ่งแม้จะเปลี่ยนเส้นทางแต่เจ้าหน้าที่ทุกระดับก็จะตรึงกำลังและสร้างอุปสรรคให้ถึงที่สุด

และอีกเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญนั่นคือความเข้มงวดในการให้บริการกระแสไฟฟ้าตามแนวชายแดน ที่ปัจจุบันการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะมีให้บริการเข้าไปยังพื้นที่ชุมชนตามแนวชายแดนเพื่อมนุษยธรรมอยู่ ซึ่งหากมีการสืบทราบว่าในชุมชนนั้นๆ มีโรงงาน ผลิต หรือบรรจุยาอยู่ หรือกรณีมีการใช้กระแสไฟฟ้าไปใช้กับคอลเซ็นเตอร์ จะสั่งให้ตัดทันที จะไม่สนใจสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อสร้างอุปสรรคทุกวิถีทางให้กับขบวนการผิดกฎหมาย และในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ตอนนี้ก็กำลังมีนโยบายจะตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายจากนอกประเทศด้วย ซึ่งหากทั้งหน่วยงานของมหาดไทย และ ดีอีเอส ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เชื่อมั่นว่าจะสามารถสกัดการทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง