ป.ป.ส. สนธิกำลังทหารพราน ลุยบึงกาฬ ปราบยาเสพติด สกัดจับชายไทย พร้อมยาไอซ์ล็อตใหญ่ หนักกว่า 220 กก.
วันนี้ (15 ก.ค.67) ที่กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 จังหวัดบึงกาฬ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.พรชัย มาหลิน รอง ผบ.นบ.ยส.24, พล.ต.นรธิป โพยนอก ผบ.กกล. สุรศักดิ์มนตรี, นายนคร ศิริปริญญานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด โดยสามารถสกัดจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ น้ำหนักกว่า 220 กิโลกรัม
การจับกุมครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ค.67 เวลา 12.30 น. โดยกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาชายไทย 1 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 220 ก้อน น้ำหนักประมาณ 220 กิโลกรัม และรถยนต์ 1 คัน บริเวณบ้านดงชมภู ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
พล.ท. อดุลย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นผลมาจากการบูรณาการกำลังป้องกันชายแดนและทุกภาคส่วนในพื้นที่ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน และขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการค้ายาเสพติด เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไป
ด้านเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง พร้อมเผยถึงนโยบายของรัฐบาลที่ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่เร่งด่วนในการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกองทัพภาคที่ 2 ได้รับข้อสั่งการจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้นำมาตรา 5 (10) กำหนดเขตพื้นที่ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเป็นพิเศษ มาบังคับใช้ในพื้นที่ชายแดน เริ่มจากพื้นที่จังหวัดนครพนม ตั้งแต่เดือนธ.ค.66 และขยายครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ นครพนม บึงกาฬ มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี และหนองคาย ทั้งนี้ ยืนยันว่า สำนักงาน ป.ป.ส. จะสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อใช้ในการสกัดกั้น ให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกนายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย โดยผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมาได้รับคำชมเชยจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของรัฐบาลในการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง
