ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจนำกระเป๋า 8 ใบ ของผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม 6 คน ในโรงแรมย่านราชประสงค์ มาเปิดตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ยังไม่พบยางูหมายเลข 7 หรือสารพิษต้องสงสัย
ตร.ไม่พบ ยางูหมายเลข 7 ในกระเป๋าผู้ตาย
จากคดีการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ทั้ง 6 คน ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งสืบสวนหาความเป็นไปได้ว่าผู้ตายคนใดเกี่ยวข้องกับการวางยาพิษบ้าง ล่าสุด พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาร่วมประชุมความคืบหน้าคดีที่ สน.ลุมพินี โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาพบตำรวจเพิ่มเติม
พล.ต.ท.อิทธิพล เปิดเผยภายหลังการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ว่ามีการนำกระเป๋า 8 ใบ ของผู้เสียชีวิตมาเปิดตรวจสอบ โดยมีญาติผู้ตาย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาร่วมตรวจสอบด้วย แต่สิ่งของภายในกระเป๋ามีอะไรบ้าง ยังไม่สามารถบอกได้ แต่จากการตรวจสอบยังไม่พบยาส่วนตัว สารพิษต้องสงสัย หรือยางูหมายเลข 7 ตามที่มีออกข่าว แต่มียาและของใช้บางส่วนที่ถูกห่อไว้ในพลาสติก ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานจะนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด
ทั้งนี้ จากการพูดคุยลูกชายของผู้เสียชีวิตคนหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตมีการลงทุนกับกลุ่มของผู้ตายด้วยเงินจำนวนหนึ่งจริง แต่ไม่รู้เรื่องการกู้ยืมเงิน
แพทย์ชันสูตร 6 ศพเวียดนาม สมบูรณ์แล้ว
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ฉันชาย สิทธิพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผ่าชันสูตรศพครบทั้งหมด และตรวจครบสมบูรณ์แล้ว แต่ยังไม่สามารถส่งคืนศพให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ เพราะยังอยู่ระหว่างประสานพนักงานสอบสวนว่ายังมีประเด็นอื่น ๆ ที่สงสัยหรือไม่ หรือต้องการให้ตรวจชันสูตรส่วนไหนเพิ่มเติมอีกหรือไม่
ส่วนการเปิดเผยรายละเอียดผลการชันสูตร จะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบในการเปิดเผยข้อมูล สำหรับขั้นตอนรับศพชาวต่างชาติ ญาติผู้เสียชีวิตต้องประสานสถานทูตตามสัญชาติ ก่อนเข้าติดต่อขอรับศพที่นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ไขปริศนา ! พลีชีพวางยาตายหมู่
ด้าน รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี หรือ หมอหมู แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ แสดงความเห็นถึงปริศนาการวางยาตายหมู่ในครั้งนี้ว่า การก่ออาชญากรรมแบบสังหารหมู่ ส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะมีเพียงแค่คนเดียว ส่วนการฆ่าตัวตาย เหตุผลเพื่อหนีความผิด
แต่ถ้ามีผู้ร่วมขบวนการมากกว่า 2 คน รู้เห็นเรื่องการวางยา แล้วฆ่าตัวตายพร้อมกันทั้งหมดนั้น พบได้น้อยมาก โดยคดีนี้พบว่าผู้เสียชีวิตบางรายพยายามวิ่งออกไปนอกห้อง เชื่อว่าแต่ละคนได้รับพิษแล้วไม่น่าจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แตกต่างกับบุคคลที่วางแผน เมื่อกินยาแล้วจะอยู่ในจุดเดิม หรือที่ตัวเองนั่งอยู่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองได้รับพิษ ฉะนั้นการคัดแยกโดยดูพฤติการณ์ในสถานที่เกิดเหตุ ก็พอจะระบุเบื้องต้นได้ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการวางยาบ้าง